ข้อสอบประมวลผลความรู้ แผนกวิชาช่างยนต์ระดับชั้น ปวช.3

ส่วนประกอบสำคัญในการผลิตกำลังงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีนคือ
1. ส่วนผสมไอดี กำลังอัด การจุดประกายไฟ
2. ความจุกระบอกสูบ กำลังอัด การจุดประกายไฟ
3. ความหนาแน่นอากาศ กำลังอัด ส่วนผสมไอดี
4. อัตราส่วนการอัด กำลังอัด การจุดประกายไฟ
อัตราส่วนผสมของอากาศกับน้ำมันเชื้อเพลิงทางทฤษฎีหมายถึง
1. อัตราส่วนผสมขณะสตาร์ทเครื่องยนต์
2. อัตราส่วนผสมขณะเดินเบา
3. อัตราส่วนผสมการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ที่สุด
4. อัตราส่วนผสมที่ได้กำลังงานสูงสุด
ข้อใดคืออัตราส่วนผสมหนา (Rich Mixture)
1. 13 : 1
2. 15 : 1
3. 16 : 1
4. 18 : 1
ข้อใดต่อไปนี้คืออัตราส่วนผสมที่บางที่สุด
1. 13 : 1
2. 15 : 1
3. 16 : 1
4. 18 : 1
สภาวะใดต่อไปนี้เครื่องยนต์ต้องการส่วนผสมใกล้เคียงอัตราส่วนผสมทางทฤษฎี
1. ขณะสตาร์ท
2. ขณะรอบเดินเบา
3. ขณะอุณหภูมิต่ำ
4. ขณะความเร็วปานกลาง
ข้อใดต่อไปนี้ต้องการอัตราส่วนผสมอากาศและน้ำมันเชื้อเพลิงหนาที่สุด
1. ขณะสตาร์ท
2. ขณะเดินเบา
3. ขณะรับภาระปานกลาง
4. ขณะอุณหภูมิเครื่องยนต์ต่ำ
น้ำมันบางส่วนอาจกลั่นตัวเป็นหยดน้ำเกาะตามผนังท่อไอดีหรือผนังกระบอกสูบเกิดขึ้นกับสภาวะใด
1. ขณะสตาร์ท
2. ขณะเดินเบา
3. ขณะรับภาระปานกลาง
4. ขณะอุณหภูมิเครื่องยนต์ต่ำ
ความสัมพันธ์ของกำลังงานกับความสิ้นเปลืองน้ำมันข้อใดถูกต้อง
1. การเพิ่มน้ำมันทำให้กำลังเครื่องยนต์ตก
2. ส่วนผสมที่หนาเกินทำให้กำลังงานลดลง
3. การเพิ่มน้ำมันยิ่งเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์เรื่อยๆ
4. ส่วนผสมที่บางมากจะทำให้เกิดการประหยัด
รอบเครื่องยนต์ควรเป็นเท่าไรถ้าต้องการให้ประหยัดเชื้อเพลิงขณะขับรถยนต์เดินทาง
1. 500 รอบต่อนาที
2. 800 รอบต่อนาที
3. 2000 รอบต่อนาที
4. 4000 รอบต่อนาที
ข้อใดไม่ใช่ก๊าซไอเสียที่เกิดจากเครื่องยนต์แก๊สโซลีน
1. CO
2. HC
3. Ox
4. NOx
EFI คือระบบการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ มีชื่อเต็มเรียกว่าอะไร
1. Electronic Fuel Injector
2. Electronic Fuel Inductor
3. Electronic Fuel Injection
4. Electronic Fuel Induction
โครงสร้างระบบฉีดเชื้อเพลิงแก๊สโซลีนต่อไปนี้เป็นด้านอินพุท (Input) ยกเว้นข้อใด
1. สัญญาณการฉีด
2. สัญญาณตำแหน่งลิ้นเร่ง
3. สัญญาณอุณหภูมิน้ำ
4. สัญญาณความเร็วรถยนต์
ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ D – Jetronic ไม่ได้มีอุปกรณ์ในข้อใด
1. ตัวตรวจจับสุญญากาศ
2. มาตรวัดการไหลของอากาศ
3. หัวฉีดสตาร์ทเย็น
4. ตัวตรวจจับการน็อก
ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง แบบ L – Jetronic ไม่ได้มีอุปกรณ์ในข้อใด
1. ตัวตรวจจับตำแหน่งลิ้นเร่ง
2. ตัวควบคุมความดัน
3. ตัวตรวจจับปริมาณออกซิเจน
4. ตัวตรวจจับสุญญากาศ
การกำหนดปริมาณการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยวิธีวัดความดันอากาศในท่อร่วมไอดีคือระบบฉีดแบบใด
1. K - Jetronic
2. KE – Jetronic
3. D – Jetronic
4. L – Jetronic
อะไรคือส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแก๊สโซลีน
1. หน่วยควบคุมอิเล็กทรอนิกส์
2. ตัวตรวจจับอุณหภูมิอากาศ
3. ตัวตรวจจับออกซิเจน
4. ตัวตรวจจับการน็อก
อุปกรณ์ระบบฉีด เชื้อเพลิงแก๊สโซลีนที่จัดอยู่กลุ่มเดียวกันทั้งหมดตามโครงสร้าง คือข้อใด
1. หัวฉีด , คอยล์จุดระเบิด
2. ตัวตรวจจับตำแหน่งลิ้นเร่ง , หัวเทียน
3. ลิ้นควบคุมรอบเดินเบา , สัญญาณมุมเพลาข้อเหวี่ยง
4. ไฟตรวจสอบเครื่องยนต์ ,สัญญาณสตาร์ท
หน่วยควบคุมอิเล็กทรอนิกส์หรือ ECU มีชื่อเต็มว่าอะไร
1. Electronic Computer Unit
2. Electronic Control Unit
3. Electronic Concentrated Unit
4. Electronic Conduction Unit
ระบบฉีดเชื้อเพลิงแก๊สโซลีนที่ใช้วิธีวัดปริมาณการไหลอากาศเข้ากระบอกสูบคือ
1. K – Jetronic
2. KE – Jetronic
3. D – Jetronic
4. L – Jetronic
ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกฉีดจะมากหรือน้อยใช้หลักวิธีการควบคุมอะไร
1. การทำงานของปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง
2. แรงดันของน้ำมันเชื้อเพลิง
3. แรงดันของน้ำมันเชื้อเพลิง
4. ระยะเวลาการป้อนกระแสไฟเข้าหัวฉีด
อุปกรณ์ใดทำหน้าที่สะสมแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับหัวฉีด
1. ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง
2. กรองน้ำมันเชื้อเพลิง
3. ท่อจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง
4. ตัวควบคุมความดัน
ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงแบบใดมีโรเตอร์หมุนอยู่ภายในเสื้อปั๊มลักษณะเยื้องศูนย์
1. แบบใบพัด
2. แบบโรลเลอร์
3. แบบเฟือง
4. แบบโรตารี่
ชิ้นส่วนใดของปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงทำหน้าที่รักษาแรงดันให้ค้างในระบบเมื่อดับเครื่องยนต์
1. ลิ้นระบายความดัน
2. ลิ้นกันกลับ
3. ใบพัดของปั๊ม
4. ท่อจ่ายน้ำมัน
อุปกรณ์ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของหัวฉีดสตาร์ทเย็นคือ
1. กล่องคอมพิวเตอร์
2. สวิตช์จุดระเบิด
3. สวิตช์ควบคุมเวลาหัวฉีด
4. รีเลย์หัวฉีด
ข้อใดกล่าวถึงการควบคุมการทำงานปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ D–Jetronic ไม่ถูกต้อง
1. ควบคุมปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงโดยใช้มาตรวัดอากาศ
2. ใช้รีเลย์เปิดวงจรควบคุมการทำงาน
3. ใช้สัญญาณสตาร์ทเพื่อให้ปั๊มเชื้อเพลิงเริ่มทำงาน
4. หลังเครื่องยนต์ทำงานใช้สัญญาณความเร็วรอบควบคุม
Pressure Regulator จะควบคุมความดันของน้ำมันเชื้อเพลิงในท่อจ่ายน้ำมันไว้ที่ค่าเท่าใด
1. 0.25 kg/cm2
2. 2.25 kg/cm2
3. 2.55 kg/cm2
4. 22.55 kg/cm2
ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการทำงานของหัวฉีดประจำสูบ (Injector)
1. เข็มหัวฉีดยกโดยโซลินอยด์ไฟฟ้า
2. กล่องคอมพิวเตอร์ทำหน้าที่กำหนดจังหวะการฉีด
3. หัวฉีดจะฉีดหลังลิ้นไอดีลิ้นไอดี
4. ปริมาณการฉีดถูกควบคุมด้วยค่าแรงดันไฟฟ้า
หัวฉีดสตาร์ทเย็นมีลักษณะเป็นไปตามข้อใดฟ้า
1. หัวฉีดสตาร์เย็นไม่มีเข็มหัวฉีด
2. หัวฉีดสตาร์เย็นควบคุมโดย ECU
3. หัวฉีดสตาร์เย็นทำงานทุกครั้งที่สตาร์ท
4. หัวฉีดสตาร์เย็นแรงดันน้ำมันสูงกว่าหัวฉีดประจำสูบ
เมื่อหัวฉีดเกิดการอุดตันอาการของเครื่องยนต์เป็นอย่างไร
1. เร่งไม่ขึ้น
2. ควันไอเสียมีสีขาว
3. รอบเดินเบาสูงขึ้น
4. เสียงดังผิดปกติที่หัวฉีด
ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงแบบติดตั้งในถังน้ำมันมีข้อดีอย่างไร
1. ควบคุมการทำงานได้ง่าย
2. ลดเสียงดังจากการทำงานของปั๊ม
3. ป้องกันการเกิดไอน้ำมันขณะจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง
4. ลดการกระเพื่อมขณะจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้น้อยลงc
อุปกรณ์ระบบประจุอากาศที่ทำหน้าที่เพิ่มรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ขณะมีอุณหภูมิต่ำคือ
1. มาตรวัดอากาศ
2. เรือนลิ้นเร่ง
3. ลิ้นอากาศ
4. สกรูปรับรอบเดินเบา
มาตรวัดการไหลของอากาศแบบใดเป็นมาตรวัดแบบพื้นฐานของมาตรวัดชนิดอื่นๆ
1. แบบขดลวดความร้อน
2. แบบคาร์มานเวอร์เท็กซ์
3. แบบฮอทฟิล์ม
4. แบบใช้แผ่นวัด
มาตรวัดการไหลอากาศแบบใดใช้หลักการเกิดกระแสหมุนวนของอากาศ
1. Hot Wire
2. Karman Vortex
3. Hot Film
4. Flap Type
ปริมาณอากาศที่ผ่านมาตรวัดการไหลอากาศถูกส่งข้อมูลไปยังกล่องคอมพิวเตอร์เพื่ออะไร
1. ปรับรอบเดินเบาให้เหมาะสม
2. ปรับองศาการจุดระเบิด
3. กำหนดความเร็วรอบ
4. คำนวณระยะเวลาการฉีดพื้นฐาน
ส่วนประกอบใดต่อไปนี้ไม่ได้ติดตั้งอยู่กับชุดเรือนลิ้นเร่ง
1. ตัวตรวจจับอุณหภูมิอากาศ
2. ตัวตรวจจับตำแหน่งลิ้นเร่ง
3. ลิ้นอากาศ
4. สกรูปรับรอบเดินเบา
ลิ้นอากาศจะเปิดมากหรือเปิดน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไร
1. อุณหภูมิอากาศที่ผ่านกรองอากาศ
2. ความเร็วของรถยนต์
3. อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์
4. ความเร็วรอบของเครื่องยนต์
การทำงานของลิ้นอากาศแบบใช้ไขขี้ผึ้ง (Wax) คล้ายหลักการทำงานของอุปกรณ์อะไร
1. ฝาหม้อน้ำ
2. วาล์วน้ำ
3. หัวเผา
4. หัวฉีดสตาร์ทเย็น
วัตถุประสงค์หลักของการมีห้องประจุไอดีคืออะไร
1. ป้องกันการกระเพื่อมของอากาศ
2. ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดปริมาณอากาศ
3. ให้อากาศประจุเข้าห้องเผาไหม้เร็วขึ้น
4. ลดเสียงดังการไหลของอากาศ
โพเทนซิโอมิเตอร์ในมาตรวัดการไหลของอากาศมีหน้าที่อะไร
1. สร้างความถี่จากการเกิดกระแสไหลวนของอากาศ
2. เปลี่ยนปริมาณการไหลของอากาศเป็นสัญญาณแรงดันไฟฟ้า
3. ส่งสัญญาณค่าความต้านทานที่เพิ่มขึ้นไปยังกล่องคอมพิวเตอร์
4. รักษาและดูดซับการสั่นกระเพือจากการทำงานของแผ่นวัดการไหล
เทอร์มิสเตอร์เป็นส่วนประกอบสำคัญของอุปกรณ์ใดต่อไปนี้
1. ตัวตรวจจับสุญญากาศและมาตรวัดอากาศ
2. ตัวตรวจจับอุณหภูมิอากาศและตัวตรวจจับสุญญากาศ
3. ตัวตรวจจับอุณหภูมิน้ำ และมาตรวัดอากาศ
4. ตัวตรวจจับอุณหภูมิอากาศและตัวตรวจจับอุณหภูมิน้ำ
ข้อใดคือองศาการจุดระเบิดเริ่มต้นที่กำหนดโดยหน่วยควบคุมอิเล็กทรอนิกส์
1. 5º ก่อนศูนย์ตายบน
2. 5º หลังศูนย์ตายบน
3. 15º ก่อนศูนย์ตายบน
4. 15º หลังศูนย์ตายบน
การควบคุมจังหวะการจุดระเบิดหลังสตาร์ทประกอบด้วยอะไร
1. องศาจังหวะการจุดระเบิดเริ่มต้น
2. องศาการจุดระเบิดล่วงหน้า
3. องศาการปรับแก้การจุดระเบิดล่วงหน้า
4. องศาการจุดระเบิดเริ่มต้น + องศาการจุดระเบิดล่วงหน้า + องศาการปรับแก้การจุดระเบิดล่วงหน้า
อุปกรณ์ใดในระบบจุดระเบิดทำหน้าที่คล้ายหม้อแปลงกระแสไฟฟ้า
1. แบตเตอรี่
2. จานจ่าย
3. หัวเทียน
4. คอยล์จุดระเบิด
ระบบจุดระเบิดแบบใดใช้หน้าทองขาวทำงานร่วมกับทรานซิสเตอร์
1. แบบกึ่งทรานซิสเตอร์
2. แบบทรานซิสเตอร์
3. แบบซีดีไอ
4. แบบไม่มีจานจ่าย
สัญญาณอะไรที่กล่องคอมพิวเตอร์ส่งไปยังตัวช่วยจุดระเบิด
1. NE
2. G
3. IGT
4. IGF
เครื่องมือที่สำคัญสำหรับการตรวจสอบจังหวะจุดระเบิดคือ
1. ออสซิลโลสโคป
2. เครื่องช่วยฟังเสียง
3. ไทม์มิ่งไลท์
4. เครื่องวัดความเร็วรอบ
ระบบจุดระเบิดแบบ IIA หมายถึงอะไร
1. ระบบจุดระเบิดไม่มีจานจ่าย
2. ระบบจุดระเบิดใช้คอยล์จุดระเบิดคู่
3. ระบบจุดระเบิดแยกจานจ่ายกับคอยล์จุดระเบิด
4. ระบบจุดระเบิดรวมชุดตัวช่วยจุดระเบิดและคอยล์ไว้ในจานจ่าย
ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่จะถูกต่อเข้าเพื่อเลี้ยงหน่วยควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ให้ทำงานได้ทางขั้วใด
1. B+
2. +B
3. E1
4. E01
ขั้วใดของกล่อง ECU ที่ได้รับกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่อยู่ตลอดเวลาแม้ปิดสวิตช์
1. B
2. BATT
3. IG1
4. IG2
ขั้วสำหรับลงกราวด์ของกล่อง ECU คือขั้วใด
1. E1
2. E2
3. E01
4. E0.2
ข้อใดคือหน้าที่ของรีซีฟเวอร์ ดรายเออร์
1. กรองสิ่งสกปรก ลดความดัน ดูดรับความชื้น
2. ดูดรับความชื้น ควบคุมปริมาณสารความเย็น กรองสิ่งสกปรก
3. กรองสิ่งสกปรก ดูดรับความชื้น แยกสารความเย็นที่เป็นแก๊สออกจากของเหลว
4. ควบคุมปริมาณสารความเย็น ลดความดัน แยกสารความเย็นที่เป็นแก๊สออกจากของเหลว
ข้อใดคือส่วนประกอบของรีซีฟเวอร์ ดรายเออร์ทั้งหมด
1. ตะแกรงกรอง ซิลิกาเจล สวิตช์ความดันสูง
2. ตะแกรงกรอง ซิลิกาเจล สวิตช์ความดันต่ำ
3. ตะแกรงกรอง ฟิลเตอร์ สวิตช์ความดันคู่
4. ตะแกรงกรอง ซิลิกาเจล กระจกมองสารความเย็น
ส่วนใดของรีซีฟเวอร์ ดรายเออร์ที่ทำหน้าที่ดูดรับความชื้น
1. ซีโอไลต์
2. ฟิลเตอร์
3. ตะแกรงกรอง
4. ไซต์กลาส
กระจกมองสารความเย็นมีหน้าที่อย่างไร
1. ดูดรับความชื้น
2. ตรวจดูปริมาณสารความเย็น
3. กรองสิ่งสกปรก
4. ตรวจสอบความดัน
ระบบปรับอากาศรถยนต์ที่ใช้สารความเย็น R 134a ใช้สารดูดรับความชื้นชนิดใด
1. โมบิลเจล
2. ซีโอไลต์
3. ซิลิกาเจล
4. โมบิลเกจ
เมื่อสารความเย็นไหลเข้าสู่รีซีฟเวอร์ ดรายเออร์จะผ่านส่วนประกอบใดก่อน
1. ฟิลเตอร์
2. สารดูดรับความชื้น
3. ตะแกรงกรอง
4. ท่อส่งสารความเย็น
สารความเย็นที่มีสถานะเป็นของเหลวจะอยู่บริเวณส่วนใดของรีซีฟเวอร์ ดรายเออร์
1. ลอยอยู่ส่วนบน
2. สะสมอยู่ส่วนล่าง
3. อยู่รวมกับสารความเย็นที่เป็นแก๊ส
4. อยู่ภายในฟิลเตอร์
สารความเย็นที่ไหลเข้าไปในรีซีฟเวอร์ ดรายเออร์มีสถานะเป็นอะไร
1. ของเหลวทั้งหมด
2. แก๊สทั้งหมด
3. ทั้งของเหลวและแก๊ส
4. ของแข็งทั้งหมด
สารความเย็นที่ไหลออกจากรีซีฟเวอร์ ดรายเออร์มีสถานะเป็นอะไร
1. ของเหลวทั้งหมด
2. แก๊สทั้งหมด
3. ทั้งของเหลวและแก๊ส
4. ของแข็งทั้งหมด
สารความเย็นเมื่อไหลออกจากรีซีฟเวอร์ ดรายเออร์แล้วจะไหลไปยังอุปกรณ์ใด
1. คอมเพรสเซอร์
2. คอนเดนเซอร์
3. เอ็กแพนชั่นวาล์ว
4. อิวาพอเรเตอร์
คอนเดนเซอร์ทำหน้าที่อย่างไร
1. ดูดรับปริมาณความร้อน
2. ระบายความร้อนให้กับสารความเย็น
3. ควบคุมปริมาณสารความเย็น
4. ดูดและอัดสารความเย็น
ข้อใดเป็นส่วนประกอบของคอนเดนเซอร์ทั้งหมด
1. ครีบระบายความร้อน ขดท่อสารความเย็น ข้อต่อท่อสารความเย็น
2. ครีบระบายความร้อน พัดลมระบายความร้อน ขดท่อสารความเย็น
3. ขดท่อสารความเย็น ครีบระบายความร้อน มอเตอร์โบลเวอร์
4. ข้อต่อท่อสารความเย็น ขดท่อสารความเย็น มอเตอร์โบลเวอร์
คอนเดนเซอร์แบ่งออกเป็นกี่แบบ
1. 2 แบบ
2. 3 แบบ
3. 4 แบบ
4. 5 แบบ
คอนเดนเซอร์แบบใดที่มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนดีที่สุด
1. แบบท่อและครีบ
2. แบบไหลขนาน
3. แบบท่อวกวน
4. แบบถ้วยดูด
สารความเย็นที่ไหลเข้าคอนเดนเซอร์มีสถานะและความดันเป็นอย่างไร
1. แก๊ส ความดันสูง
2. แก๊ส ความดันต่ำ
3. ของเหลว ความดันสูง
4. ของเหลว ความดันต่ำ
อุปกรณ์ใดที่รับสารความเย็นต่อจากคอนเดนเซอร์
1. คอมเพรสเซอร์
2. เอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว
3. อิวาพอเรเตอร์
4. รีซีฟเวอร์ ดรายเออร์
ข้อใด ไม่ใช่ วิธีที่ใช้ในการระบายความร้อนออกจากคอนเดนเซอร์
1. ใช้พัดลมไฟฟ้า
2. ใช้พัดลมหม้อน้ำ
3. ใช้พัดลมไฟฟ้าร่วมกับพัดลมหม้อน้ำ
4. ใช้น้ำหล่อเย็น
รถกระบะโดยทั่วไปจะใช้วิธีการระบายความร้อนของคอนเดนเซอร์ด้วยวิธีใด
1. ใช้พัดลมไฟฟ้า
2. ใช้พัดลมหม้อน้ำ
3. ใช้พัดลมไฟฟ้าร่วมกับพัดลมหม้อน้ำ
4. ใช้น้ำหล่อเย็น
รถเก๋งที่ขับเคลื่อนล้อหน้าจะใช้วิธีการระบายความร้อนของคอนเดนเซอร์ด้วยวิธีใด
1. ใช้พัดลมไฟฟ้า
2. ใช้พัดลมหม้อน้ำ
3. ใช้พัดลมไฟฟ้าร่วมกับพัดลมหม้อน้ำ
4. ใช้น้ำหล่อเย็น
ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุดเกี่ยวกับความหมายของการปรับอากาศรถยนต์
1. การทำให้อากาศมีสภาวะที่ทำให้ร่างกายรู้สึกสบาย
2. การทำให้อากาศร้อน
3. การทำให้อากาศหนาว
4. การทำให้อากาศอบอุ่น
ข้อใดเป็นส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศรถยนต์ทั้งหมด
1. คอมเพรสเซอร์ คอมมิวเตเตอร์ เอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว รีซีฟเวอร์ ดรายเออร์ อิวาพอเรเตอร์
2. เอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว เรกกูเลเตอร์ คอนเดนเซอร์ รีซีฟเวอร์ ดรายเออร์ อิวาพอเรเตอร์
3. คอมเพรสเซอร์ คอนเดนเซอร์ เอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว รีซีฟเวอร์ ดรายเออร์ อิวาพอเรเตอร์
4. คอนเดนเซอร์ เรกกูเลเตอร์ เอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว รีซีฟเวอร์ ดรายเออร์ อิวาพอเรเตอร์
อุปกรณ์ใดในระบบปรับอากาศรถยนต์ที่ทำให้สารความเย็นเกิดการไหลเวียน
1. คอมเพรสเซอร์
2. เอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว
3. อิวาพอเรเตอร์
4. คอนเดนเซอร์
ความร้อนของสารความเย็นจะถูกถ่ายเทออกที่อุปกรณ์ใด
1. คอมเพรสเซอร์
2. เอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว
3. อิวาพอเรเตอร์
4. คอนเดนเซอร์
คอมเพรสเซอร์จะอัดสารความความเย็นไปยังอุปกรณ์ใด และสถานะใด
1. คอนเดนเซอร์ สถานะแก๊ส
2. เอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว สถานะของเหลว
3. อิวาพอเรเตอร์ สถานะแก๊ส
4. รีซีฟเวอร์ ดรายเออร์ สถานะของเหลว
ข้อใดอยู่ทางด้านความดันสูง
1. ทางเข้าคอนเดนเซอร์
2. ทางออกเอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว
3. ทางออกของอิวาพอเรเตอร์
4. ทางเข้าคอมเพรสเซอร์
ข้อใดคือหน้าที่ของปั๊มสุญญากาศ
1. บรรจุสารความเย็น
2. ดูดและอัดสารความเย็น
3. ดูดอากาศและความชื้นออกจากระบบปรับอากาศ
4. เก็บคืนสารความเย็น
ท่อสารความเย็นแบ่งออกเป็น กี่ชนิด
1. 2 ชนิด
2. 3 ชนิด
3. 4 ชนิด
4. 5 ชนิด
สิ่งใดที่ ไม่ เกี่ยวข้องกับการเลือกใช้ท่อสารทำความเย็น
1. ชนิดของสารความเย็น
2. ลักษณะของการต่อท่อ
3. ราคาของท่อ
4. รูปทรงที่สวยงามของท่อ
ข้อใดคือเครื่องมือที่ใช้ในการตัดท่อโลหะ
1. ตะไบกลม
2. คัตเตอร์ตัดท่อ
3. รีมเมอร์
4. อะแดปเตอร์
การคว้านปลายท่อด้านในเพื่อลบคมควรใช้สิ่งใด
1. กระดาษทราย
2. ตะไบสามเหลี่ยม
3. รีมเมอร์
4. อะแดปเตอร์
เครื่องมือชนิดใดที่ใช้ทำสุญญากาศและบรรจุสารความเย็น
1. มัลติมิเตอร์
2. มานิโฟลด์เกจ
3. เทอร์โมมิเตอร์
4. ไดแอลเกจ
เทอร์โมมิเตอร์ มีหน้าที่อย่างไร
1. ใช้สำหรับวัดความชื้น
2. ใช้สำหรับวัดความดัน
3. ใช้สำหรับวัดอุณหภูมิ
4. ใช้สำหรับวัดการรั่วของสารความเย็น
ข้อใด ไม่ใช่ ส่วนประกอบของมานิโฟลด์เกจ
1. วาล์วหมุนด้านความดันต่ำ
2. เกจวัดความดันด้านสูง
3. ปลั๊กตัน
4. หัวจุดไฟ
สายของมานิโฟลด์เกจสีใดที่ต่อระหว่างลิ้นบริการด้านดูดกับมานิโฟลด์เกจด้านต่ำ
1. สีแดง
2. สีน้ำเงิน
3. สีเหลือง
4. สีเขียว
ข้อใดคือหน่วยวัดความดันสุญญากาศ
1. ib
2. kg
3. kPa
4. In.Hg
วาล์วหมุนของมานิโฟลด์เกจเปิดทั้งสองด้านใช้สำหรับทำสิ่งใด
1. บรรจุสารความเย็นขณะคอมเพรสเซอร์ทำงาน
2. บรรจุสารความเย็นขณะคอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน
3. ทำสุญญากาศ
4. ทดสอบประสิทธิภาพของระบบปรับอากาศ
ข้อใดคือหน้าที่ของปั๊มสุญญากาศ
1. บรรจุสารความเย็น
2. ดูดและอัดสารความเย็น
3. ดูดอากาศและความชื้นออกจากระบบปรับอากาศ
4. เก็บคืนสารความเย็น
ข้อใดคือหน้าที่ของคอมเพรสเซอร์แบบลูกสูบ
1. ดูดสารความเย็นในสถานะที่เป็นแก๊ส
2. อัดสารความเย็นในสถานะที่เป็นของแก๊ส
3. ดูดและอัดสารความเย็นในสถานะที่เป็นของของเหลว
4. ดูดและอัดสารความเย็นในสถานะที่เป็นของแก๊ส
ข้อใดคือหน้าที่ของคอมเพรสเซอร์แบบสวอชเพลต
1. ดูดสารความเย็นในสถานะที่เป็นแก๊ส
2. อัดสารความเย็นในสถานะที่เป็นของแก๊ส
3. ดูดและอัดสารความเย็นในสถานะที่เป็นของของเหลว
4. ดูดและอัดสารความเย็นในสถานะที่เป็นของแก๊ส
สต็อปหรีดมีหน้าที่อย่างไร
1. ป้องกันหรีดวาล์วด้านอัดชำรุด
2. ป้องกันหรีดวาล์วด้านดูดชำรุด
3. ป้องกันการรั่วของสารความเย็น
4. ป้องกันวาล์วเพลตชำรุด
หัวสกรูมีเลข 4 หมายถึงอะไร
1. สกรูธรรมดา
2. สกรูเกลียวธรรมดา
3. สกรูพิเศษรับแรงมาก
4. สกรูเกลียวพิเศษ
สกรูขนาด M10*1.25 ตัวอักษร M หมายถึงข้อใด
1. เกลียวอเมริกัน
2. เกลียวอังกฤษ
3. เกลียวเมตริก
4. เกลียวสากล
แหวนล๊อกแบบสปริงใส่ไว้เพื่อจุดประสงค์ในข้อใด
1. ป้องกันการคลายตัวเอง
2. ป้องกันการหมุนของชิ้นส่วน
3. เพิ่มระยะการขัน
4. ลดระยะการขันแน่น
เครื่องมือคือคำใด
1. Screws
2. Bolts
3. Studs
4. Hand Tool
คอประแจแหวนเอียงเป็นมุมเท่าใด
1. เป็นมุม 10 องศา
2. เป็นมุม 15 องศา
3. เป็นมุม 20 องศา
4. เป็นมุม 25 องศา
ลูกบ็อกมีรูเป็นกี่เหลี่ยม
1. 3 - 6 - 8 เหลี่ยม
2. 6 - 8 - 12 เหลี่ยม
3. 8 - 12 - 16 เหลี่ยม
4. 12 - 16 - 20 เหลี่ยม
เครื่องยนต์มีหน้าที่อะไร
1. เปลี่ยนพลังงานกลเป็นพลังงานความร้อน
2. เปลี่ยนพลังงานความร้อนเป็นพลังงานกล
3. เปลี่ยนพลังงานกลเป็นพลังงานไฟฟ้า
4. เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล
จังหวะดูด หมายถึง ลักษณะการทำงานในข้อใด
1. ลูกสูบเลื่อนลงลิ้นไอดีเปิด
2. ลูกสูบเลื่อนลงลิ้นไอดีปิด
3. ลูกสูบเลื่อนขึ้นลิ้นไอเสียเปิด
4. ลูกสูบเลื่อนขึ้นลิ้นไอเสียปิด
อัตราสวนการอัดเครื่องยนต์แก๊สโซลีนประมาณเท่าใด
1. 2 – 5 : 1
2. 6 – 10 : 1
3. 11 – 15 : 1
4. 16 – 20 : 1
ช่วงชักหมายถึงระยะทางอะไร
1. ระยะทางที่ลูกสูบขึ้นได้สูงสุด
2. ระยะทางที่ลูกสูบคลอน
3. ระยะทางที่ลูกสูบขึ้นลงได้มากสุด
4. ระยะทางที่ลูกสูบลงได้น้อยที่สุด
กระบอกสูบมีหน้าที่อะไร
1. จุดระเบิด
2. ป้องกันน้ำรั่ว
3. ให้ลูกสูบเคลื่อนที่ไปกลับปลอดภัย
4. อัดอากาศ
เครื่องยนต์ 4 ลูกสูบ 3200 ซีซี. หมายถึงอะไร
1. ความจุกระบอกสูบ 1 สูบ
2. ปริมาตรน้ำมันเครื่องในเครื่องยนต์
3. ปริมาตรน้ำระบายความร้อน
4. ความจุกระบอกสูบทั้ง 4 สูบ
ลิ้นไอดีเปิดเป็นจังหวะอะไร
1. จังหวะดูด
2. จังหวะอัด
3. จังหวะงาน
4. จังหวะคาย
อุณหภูมิแก๊สเผาไหม้ในกระบอกสูบสูงเท่าไร
1. 2000๐ซ.
2. 2500๐ซ.
3. 3000๐ซ.
4. 4000๐ซ.
การทำงาน 4 จังหวะครบวัฏจักร เป็นกี่รอบ เพลาข้อเหวี่ยง
1. เพลาข้อเหวี่ยงหมุน 1 รอบ
2. เพลาข้อเหวี่ยงหมุน 2 รอบ
3. เพลาข้อเหวี่ยงหมุน 3 รอบ
4. เพลาข้อเหวี่ยงหมุน 4 รอบ
ลิ้นไอเสียเปิดเมื่อไร
1. จังหวะดูด
2. จังหวะอัด
3. จังหวะงาน
4. จังหวะคาย
เพลาข้อเหวี่ยงทำหน้าที่อะไร
1. เปลี่ยนพลังกลเป็นพลังงานความร้อน
2. เปลี่ยนแรงแก๊สขยายตัวให้สูงขึ้น
3. เปลี่ยนแรงแนวตรงให้เป็นแรงหมุน
4. เปลี่ยนพลังงานความร้อนเป็นพลังงานกล
ตั้งระยะห่างตีนลิ้นน้อยเกินไปมีผลอย่างไร
1. ทำให้อากาศผ่านได้น้อย
2. อาจทำให้ลิ้นปิดไม่สนิท
3. อาจทำให้ลิ้นมีเสียงดัง
4. ทำให้ลิ้นเปิดช้าแต่ปิดเร็ว
ลูกสูบเว้าชายล่างทำไม
1. ลดพื้นที่สัมผัสกระบอกสูบ
2. ลดความสูง
3. ลดความสมดุล
4. ลดการกระแทก
เครื่องยนต์หมุน 4000 รอบ/นาที ลิ้นไอดี เปิดกี่ครั้ง/นาที
1. 1000
2. 2000
3. 3000
4. 4000
ทำไมต้องบดลิ้น
1. เพื่อให้ลิ้นเปิดได้ในพิกัด
2. เพื่อให้ลิ้นปิดสนิท
3. เพื่อลิ้นไม่ร้อนจัด
4. เพื่อให้ลิ้นไม่ดัง
คุณสมบัติน้ำมันเบนซินคืออะไร
1. เปลี่ยนสถานะเป็นไอต่อเนื่อง
2. เปลี่ยนสถานะเป็นไอได้สมบูรณ์ที่สุด
3. ต้องไม่เปลี่ยนสถานะเป็นไอต่อเนื่อง
4. ต้องไม่เปลี่ยนสถานะเป็นไอได้สมบูรณ์
น้ำมันเบนซินผ่านไส้กรองอย่างไร
1. จากภายนอกเข้าภายใน
2. จากภายในออกภายนอก
3. จากข้างบนสู่ข้างล่าง
4. จากข้างล่างสู่ข้างบน
ห้องลูกลอยคาร์บูเรเตอร์มีหน้าที่อะไร
1. ป้องกันน้ำมันท่วม
2. ป้องกันน้ำมันระเหยเปล่าประโยชน์
3. รักษาระดับน้ำมันป้อนคาร์บูเรเตอร์
4. รักษาอัตราส่วนผสมไอดี
โช้คในคาร์บูเรเตอร์มีหน้าที่อะไร
1. เพิ่มอากาศให้ติดเครื่องง่าย
2. เพิ่มน้ำมันให้ติดเครื่องง่าย
3. เพิ่มส่วนผสมไอดีให้ติดเครื่องง่าย
4. เพิ่มความดันในห้องเผาไหม
น้ำมันเครื่องมีหน้าที่อะไร
1. ส่งถ่ายกำลังแก๊สเผาไหม้
2. ระบายความร้อน
3. ป้องกันการน็อก
4. ป้องกันลูกสูบไหม้
ทำไมต้องอุ่นเครื่องก่อนใช้งานหลัง เครื่องยนต์ติด
1. เพื่อให้ออกรถไม่ดับ
2. เพื่อให้เข้าเกียร์ง่าย
3. เพื่อให้น้ำไหลวนทั่วหม้อน้ำ
4. เพื่อให้น้ำมันเครื่องหมุนเวียนหล่อลื่นให้ทั่ว
หม้อน้ำมีหน้าที่อะไร
1. รักษาอุณหภูมิน้ำให้ต่ำสุด
2. ป้องกันน้ำเดือด
3. ถ่ายเทความร้อนส่วนเกินออกไป
4. ถ่ายเทความร้อนออกให้มากที่สุด
ลำดับขั้นการทำงานของเครื่องยนต์ 4 จังหวะ คือข้อใด
1. 3-4-2-1
2. 1-2-3-4
3. 2-4-3-1
4. 1-3-4-2
การทำงานของเครื่องยนต์ 4 จังหวะเมื่อ ทำงานครบ 1 กลวัฏ เพลาข้อเหวี่ยง หมุนไปที่องศา
1. 180 องศา
2. 360 องศา
3. 540 องศา
4. 720 องศา
เครื่องยนต์ร้อนจัดเป็นผลจากสิ่งใด
1. ระบบหล่อเย็นทำงานผิดปกติ
2. การจุดระเบิดเพิ่มมากขึ้น
3. เครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ
4. เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น
ด้านหน้าของเครื่องยนต์มองจากด้านใด
1. ด้านหน้ารถ
2. ด้านหลังรถ
3. ด้านสายพาน
4. ด้านล้อช่วยแรง
เพลาข้อเหวี่ยงมีรูน้ำมันเครื่องเพื่ออะไร
1. หล่อลื่นลูกสูบ
2. หล่อลื่นแบริ่งข้อก้าน
3. หล่อลื่นแบริ่งข้ออก
4. หล่อลื่นแบริ่งข้อออกและข้อก้าน
ทำไมต้องตอกเครื่องหมายคู่ชิ้นส่วนก่อน
1. ป้องกันสลับคู่
2. ป้องกันชำรุด
3. เพื่อการหล่อลื่น
4. ไม่ให้หลงลืม
ทำไมต้องใช้ประแจทอร์กขันฝาครอบแบริ่ง
1. เป็นกฎการซ่อมเครื่องยนต์
2. เป็นวิธีที่ดี
3. เพื่อให้ได้แรงขันตามกำหนด
4. ป้องกันสกรูขาด
ทำไมต้องเรียงแบริ่งตามลำดับสูบเครื่องยนต์
1. แลดูสวยงาม
2. ป้องกันสกปก
3. ป้องกันตกหล่น
4. ป้องกันประกอบสลับที่
เครื่องยนต์ดีเซลมีอัตราส่วนการอัดเท่าได
1. ประมาณ 10 – 14 : 1
2. ประมาณ 14 – 16 : 1
3. ประมาณ 16 – 20 : 1
4. ประมาณ 20 – 30 : 1
ไอดีที่เครื่องยนต์ดีเซลดูดเข้าไปคืออะไร
1. อากาศเปล่า
2. อากาศและน้ำมันดีเซล
3. อากาศอัด
4. อากาศผสมน้ำมันดีเซล
ข้อนิยมใช้เครื่องยนต์ดีเซล
1. ให้แรงบิดสูง
2. มีโอกาสเสียมีน้อย
3. น้ำมันดีเซลไวไฟน้อย
4. ค่าน้ำมันดีเซลต่ำกว่า
โดยทั้วไปตั้งระยะห่างลิ้นเท่าใด
1. 0.2 – 0.3 มม.
2. 0.4 - 0.5 มม.
3. 0.5 – 0.6 มม.
4. 0.6 – 0.7 มม.
ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุดเกี่ยวกับความหมายของการปรับอากาศ
1. การทำให้อากาศมีสภาวะที่ทำให้ร่างกายรู้สึกสบาย
2. การทำให้อากาศร้อน
3. การทำให้อากาศหนาว
4. การทำให้อากาศอบอุ่น
ข้อใดเป็นส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศรถยนต์
1. คอมเพรสเซอร์ คอมมิวเตเตอร์ เอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว รีซีฟเวอร์ ดรายเออร์ อิวาพอเรเตอร์
2. เอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว เรกกูเลเตอร์ คอนเดนเซอร์ รีซีฟเวอร์ ดรายเออร์ อิวาพอเรเตอร์
3. คอมเพรสเซอร์ คอนเดนเซอร์ เอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว รีซีฟเวอร์ ดรายเออร์ อิวาพอเรเตอร์
4. คอนเดนเซอร์ เรกกูเลเตอร์ เอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว รีซีฟเวอร์ ดรายเออร์ อิวาพอเรเตอร์
อุปกรณ์ใดในระบบปรับอากาศรถยนต์ที่ทำให้สารความเย็นเกิดการไหลเวียน
1. คอมเพรสเซอร์
2. เอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว
3. อิวาพอเรเตอร์
4. คอนเดนเซอร์
อุปกรณ์ใดทำหน้าที่ในการดูดรับความชื้น และกรองสิ่งสกปรกออกจากสารความเย็น
1. คอมเพรสเซอร์
2. เอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว
3. อิวาพอเรเตอร์
4. รีซีฟเวอร์ ดรายเออร์
อุปกรณ์ใดทำหน้าที่ให้สารความเย็นเปลี่ยนสถานะและดูดความร้อน
1. คอมเพรสเซอร์
2. เอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว
3. อิวาพอเรเตอร์
4. รีซีฟเวอร์ ดรายเออร์
สารความเย็นไหลผ่านอุปกรณ์ใดที่ทำให้ความดันลดลงจากความดันสูงเป็นความดันต่ำ
1. คอมเพรสเซอร์
2. เอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว
3. อิวาพอเรเตอร์
4. รีซีฟเวอร์ ดรายเออร์
คอมเพรสเซอร์จะอัดสารความความเย็นไปยังอุปกรณ์ใด และสถานะใด
1. คอนเดนเซอร์ สถานะแก๊ส
2. เอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว สถานะของเหลว
3. อิวาพอเรเตอร์ สถานะแก๊ส
4. รีซีฟเวอร์ ดรายเออร์ สถานะของเหลว
ข้อใดอยู่ทางด้านความดันสูง
1. ทางเข้าคอนเดนเซอร์
2. ทางออกเอ็กซ์แพนชั่นวาล์ว
3. ทางออกของอิวาพอเรเตอร์
4. ทางเข้าคอมเพรสเซอร์
ข้อใดอยู่ทางด้านความดันต่ำ
1. ทางออกของคอนเดนเซอร์
2. ทางออกของอิวาพอเรเตอร์
3. ทางออกของรีซีฟเวอร์ ดรายเออร์
4. ทางออกของคอมเพรสเซอร์
เครื่องมือที่ใช้ในการบริการระบบปรับอากาศรถยนต์ชนิดใดจัดเป็นเครื่องมือทั่วไป
1. เครื่องมือถอดแผ่นกด
2. มัลติมิเตอร์
3. หัวแร้งบัดกรี
4. ประแจแหวน
เครื่องมือที่ใช้ในการบริการระบบปรับอากาศรถยนต์ชนิดใดจัดเป็นเครื่องมือพิเศษ
1. ประแจแหวน
2. ไขควง
3. ค้อนพลาสติก
4. เครื่องมือถอดแผ่นกด
เครื่องมือชนิดใดที่ใช้ทำสุญญากาศและบรรจุสารความเย็น
1. มัลติมิเตอร์
2. มานิโฟลด์เกจ
3. เทอร์โมมิเตอร์
4. ไดแอลเกจ
เทอร์โมมิเตอร์ มีหน้าที่อย่างไร
1. ใช้สำหรับวัดความชื้น
2. ใช้สำหรับวัดความดัน
3. ใช้สำหรับวัดอุณหภูมิ
4. ใช้สำหรับวัดการรั่วของสารความเย็น
ข้อใด ไม่ใช่ ส่วนประกอบของมานิโฟลด์เกจ
1. วาล์วหมุนด้านความดันต่ำ
2. เกจวัดความดันด้านสูง
3. ปลั๊กตัน
4. หัวจุดไฟ
สิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนที่จะมีการบานแฟลร์ คือข้อใด
1. คว้านปลายท่อและตกแต่งให้เรียบ
2. ดัดท่อให้ตรง
3. ทำความสะอาดท่อ
4. จับท่อให้แน่น ๆ
การบานท่อสองชั้นมีข้อดีอย่างไรบ้าง
1. ไม่จำเป็นต้องคว้านปลายท่อก่อนบานแฟลร์
2. มีความสวยงาม
3. ในขณะบานแฟลร์ท่อไม่แตกง่าย
4. มีความแข็งแรงและป้องกันการรั่วได้ดี
คลัตช์แม่เหล็กของคอมเพรสเซอร์มีหน้าที่อย่างไร
1. ตัดกำลังจากเครื่องยนต์
2. ต่อกำลังจากเครื่องยนต์
3. ตัดและต่อกำลังจากเครื่องยนต์
4. ตัดและต่อกำลังจากพูลเล่ย์
คลัตช์แม่เหล็กทำงานโดยอาศัยสิ่งใดเป็นสำคัญ
1. อำนาจของสนามแม่เหล็ก
2. แผ่นสปริง
3. แผ่นเอียง
4. ความเร็วรอบของเครื่องยนต์
ข้อใดเป็นส่วนประกอบของคลัตช์แม่เหล็กทั้งหมด
1. พูลเล่ย์ ใบพัด แผ่นกด
2. พูลเล่ย์ แผ่นกด ขดลวดสเตเตอร์
3. แผ่นกด ใบพัด ทรัตช์แบริ่ง
4. ขดลวดสเตเตอร์ พูลเล่ย์ ทรัตช์แบริ่ง
สายพานของเครื่องยนต์จะขับส่วนใดของคลัตช์แม่เหล็ก
1. พูลเล่ย์
2. ตลับลูกปืน
3. แผ่นกด
4. ขดลวดสเตเตอร์
กระแสไฟฟ้าจะไหลเข้าไปในส่วนใดของคลัตช์แม่เหล็กเพื่อให้เกิดการทำงาน
1. ขดลวดสเตเตอร์
2. ตลับลูกปืน
3. แผ่นกด
4. พูลเล่ย์
คลัตช์แม่เหล็กทำงานโดยอาศัยสิ่งใดเป็นสำคัญ
1. อำนาจของสนามแม่เหล็ก
2. แผ่นสปริง
3. แผ่นเอียง
4. ความเร็วรอบของเครื่องยนต์
ขณะที่คลัตช์แม่เหล็กทำงานแผ่นกดจะมีลักษณะเป็นอย่างไร
1. ถูกดูดเข้าไปติดกับพูลเล่ย์
2. ถูกดูดเข้าไปติดกับขดลวดสเตเตอร์
3. แยกตัวออกจากขดลวดสเตเตอร์
4. แยกตัวออกจากพูลเล่ย์
ขณะที่คลัตช์แม่เหล็กไม่ทำงานแผ่นกดจะมีลักษณะเป็นอย่างไร
1. ถูกดูดเข้าไปติดกับพูลเล่ย์
2. ถูกดูดเข้าไปติดกับขดลวดสเตเตอร์
3. แยกตัวออกจากขดลวดสเตเตอร์
4. แยกตัวออกจากพูลเล่ย์
คอมเพรสเซอร์แบบลูกสูบใช้คลัตช์แม่เหล็กแบบใด
1. แบบ F
2. แบบ E
3. แบบ R
4. แบบ P
สารความเย็นที่ไหลออกจากกระบอกสูบจะมีสถานะเป็นอะไร
1. แก๊สอุณหภูมิต่ำ
2. แก๊สอุณหภูมิสูง
3. ของเหลวอุณหภูมิต่ำ
4. ของเหลวอุณหภูมิ
ข้อใด ไม่ใช่ ส่วนประกอบของคอมเพรสเซอร์แบบลูกสูบ
1. เพลาข้อเหวี่ยง
2. แผ่นเอียง
3. หรีดวาล์วด้านดูด
4. วาล์วเพลต
ชิ้นส่วนใดของคอมเพรสเซอร์แบบลูกสูบที่ทำให้ลูกสูบเกิดการเคลื่อนที่
1. เพลาข้อเหวี่ยง
2. แผ่นเอียง
3. โรเตอร์
4. ใบพัด
สต็อปหรีดมีหน้าที่อย่างไร
1. ป้องกันหรีดวาล์วด้านอัดชำรุด
2. ป้องกันหรีดวาล์วด้านดูดชำรุด
3. ป้องกันการรั่วของสารความเย็น
4. ป้องกันวาล์วเพลตชำรุด
เมื่อลูกสูบเลื่อนลงหรีดวาล์วด้านดูดจะเป็นอย่างไร
1. เปิดให้สารความเย็นไหลออก
2. เปิดให้สารความเย็นไหลเข้า
3. ปิดไม่ให้สารความเย็นไหลเข้า
4. ปิดไม่ให้สารความเย็นไหลออก
การจ่ายลมอัด ท่อเมนควรติดตั้งอย่างไร
1. ติดตั้งให้ชิดกับผนังมากที่สุด เพื่อสะดวกในการยืดท่อ
2. ติดตั้งให้ห่างผนัง เพื่อการระบายความร้อน
3. ติดตั้งให้ได้ระดับ เพื่อความสวยงาม
4. เดินท่อเอียงเล็กน้อย เพื่อให้หยดน้ำไหลไปรวมตัวในที่ต่ำไม่ขังในท่อ
การต่อท่อเมนและท่อแยกโดยวิธีประหยัดที่สุดคือข้อใด
1. เชื่อม
2. ใช้ข้อต่อเกลียว
3. สวมอัด
4. ใช้น้ำยาเคลือบ
ข้อเสียที่เป็นปัญหาใหญ่ของการต่อท่อเมนและท่อแยกต่างๆ ในระบบนิวแมติกส์โดยวิธีเชื่อมคือข้อใด
1. เกิดการบิดงอเสียรูป
2. แนวเชื่อมแข็ง เปาะ เป็นจุดอ่อนของท่อ
3. สะเก็ดออกไซด์ของโลหะที่เกิดจากการเชื่อมตกค้างภายในท่อ
4. โอกาสการซึมหรือรั่วไหลของลมอัดเกิดขึ้นง่ายตามรอยเชื่อม
การเดินท่อเมนจ่ายลมอัดวิธีใดที่ให้ระบบการจ่ายลมสมบูรณ์ที่สุด
1. เดินแบบเส้นตรง
2. เดินแบบเส้นขนาน
3. เหลือเดินแบบเส้นสามเหลี่ยม
4. เส้นแบบวงกลม
การเลือกขนาดท่อลม สิ่งที่จะต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกคืออะไร
1. ปริมาณการใช้ลมอัด
2. ความยาวรวมทั้งหมด
3. ค่าความดันตกคร่อมที่อนุญาต
4. ค่าความดันใช้งาน
ท่อส่งลมอัดอย่างอ่อนที่ใช้ในเครื่องจักรระบบนิวแมติกส์โดยทั่วไปจะใช้ท่อสีอะไรสำหรับท่อที่มีความดันสูง
1. น้ำเงิน
2. แดง
3. เหลือง
4. เขียว
สาเหตุที่เกิดความดันตกคร่อมขึ้นในระบบท่อทางจ่ายลมอัดคืออะไร
1. การเดินท่อเมนมีข้องอมากเกินไป
2. การเลือกขนาดท่อจ่ายลมใหญ่เกินไป
3. การจ่ายลมที่มีความดันต่ำ
4. ง. การเดินท่อแยกน้อยเกินไป
เซนเซอร์อุณหภูมิน้ำมันเชื้อเพลิงติดตั้งอยู่กับชิ้นส่วนใด
1. รางร่วมน้ำมัน
2. ปั๊มจ่ายเชื้อเพลิง
3. กรองน้ำมัน
4. ถังน้ำมัน
การตรวจวัดความต้านทานของเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นต้องตรวจวัดขั้วใด
1. THF กับ E2
2. THA กับ E2
3. THW กับ E2
4. THG กับ E2
การตรวจวัดความต้านทานของเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิน้ำมันเชื้อเพลิงต้องตรวจวัดขั้วใด
1. THF กับ E2
2. THA กับ E2
3. THW กับ E2
4. THG กับ E2
ผลการตรวจสอบเมื่อใช้ลมเป่าผ่านมาตรวัดการไหลอากาศขณะเปิดสวิตช์จุดระเบิด ON คือข้อใด
1. ความต้านทานขยับขึ้น ๆ ลง ๆ
2. แรงดันไฟฟ้าขยับขึ้น ๆ ลง ๆ
3. กระแสไฟฟ้าขยับขึ้น ๆ ลง ๆ
4. ความต้านทานและกระแสคงที่
ขั้วใดของมาตรวัดการไหลอากาศทำหน้าที่ส่งสัญญาณปริมาณอากาศไปยังหน่วยควบคุม
1. VG
2. THA
3. E1
4. E2
การตรวจวัดความต้านทานของตัวเซนเซอร์อุณหภูมิอากาศต้องตรวจวัดที่ขั้วใด
1. VG กับ E1
2. THA กับ E1
3. VG กับ E2
4. THA กับ E2
หน้าสัมผัสของรีเลย์หลัก EFI คือขั้วใด
1. 1 กับ 2
2. 1 กับ 3
3. 3 กับ 5
4. 2 กับ 5
การตรวจสอบการขาดของขดลวดรีเลย์หลัก EFI ต้องวัดความต่อเนื่องของขั้วใด
1. 1 กับ 2
2. 1 กับ 3
3. 3 กับ 5
4. 2 กับ 5
การตรวจสอบความต่อเนื่องของอุปกรณ์ต้องใช้เครื่องมืออะไร
1. แอมป์มิเตอร์
2. โวลต์มิเตอร์
3. โอห์มมิเตอร์
4. ไมโครมิเตอร์
เครื่องมือใดใช้สำหรับตรวจสอบอุปกรณ์ระบบฉีดเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ดีเซลบ่อยที่สุด
1. ประแจ
2. สายไฟลัดขั้ว
3. มัลติมิเตอร์
4. เกจวัดความดัน
อุปกรณ์ใดทำหน้าที่กระตุ้นโซลินอยด์หัวฉีดให้ทำงาน
1. ECU
2. ECM
3. EDU
4. ECI
เซนเซอร์ตำแหน่งเพลาข้อเหวี่ยงทำหน้าที่อะไร
1. ส่งสัญญาณตำแหน่งเพลาข้อเหวี่ยง
2. ส่งสัญญาณตำแหน่งศูนย์ตายบน
3. ส่งสัญญาณตำแหน่งมุมเพลาข้อเหวี่ยงและศูนย์ตายบน
4. ส่งสัญญาณตำแหน่งมุมเพลาข้อเหวี่ยงและการฉีดน้ำมัน
ขดลวดโซลินอยด์ของหัวฉีดดีเซลคอมมอนเรลใช้แรงดันไฟฟ้าเท่าไร
1. 12 โวลต์
2. 24 โวลต์
3. 125 โวลต์
4. 250 โวลต์
การต่อท่อเมนและท่อแยกโดยวิธีประหยัดที่สุดคือข้อใด
1. ชื่อม
2. ใช้ข้อต่อเกลียว
3. สวมอัด
4. ใช้น้ำยาเคลือบ
การติดตั้งท่อส่งลมอัดควรวางในแนวนอนมีระยะเอียงลาดประมาณเท่าไร
1. 1-2º จากแนวระดับ
2. 1-2% ของความยาวท่อลมอัด
3. 3-5º จากแนวระดับ
4. 3-5% ของความยาวท่อลมอัด
อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่อัดอากาศคือข้อใด
1. เครื่องอัดอากาศ
2. ปั๊มลม
3. Compressor
4. ถูกทุกข้อ
เครื่องอัดอากาศชนิดใดที่ให้ความดันสูงที่สุด
1. แบบลูกสูบชัก
2. แบบใบพัด
3. แบบสกรู
4. แบบเฟือง
1 K มีค่าเท่าไร
1. -1 ºC
2. -2 ºC
3. 2 ºC
4. -272 ºC
ในการวัดความดัน ค่าความดันสัมบูรณ์หมายถึงอะไร
1. ความดันบรรยากาศ บวก ความดันเกจ
2. ความดันสุนอากาศ บวก ความดันเกจ
3. ความดันบรรยากาศ บวก ความดันสุนอากาศ
4. ความดันสัมบูรณ์ บวก ความดันสุนอากาศ
แรงที่กระทำในทิศตั้งฉากกับพื้นที่ของสัตถุ เรียกว่าอะไร
1. น้ำหนัก
2. มวล
3. ความดัน
4. งาน
ระบบไฮดรอลิกส์มีอุปกรณ์ถ่ายทอดพลังงานคืออะไร
1. มอเตอร์ไฟฟ้า
2. เครื่องยนต์
3. ปั๊มน้ำมันไฮดรอลิกส์
4. ท่อทางน้ำมัน
ข้อแตกต่างระหว่างระบบไฮดรอลิกส์กับนิวแมติกส์คืออะไร
1. สามารถควบคุมได้ง่าย
2. เคลื่อนตัวได้เร็ว
3. หล่อลื่นด้วยตนเอง
4. ควบคุมทางอ้อมได
ระบบไฮดรอลิกส์ที่ใช้สำหรับงานขนส่งและงานโยธาธิการคือข้อใด
1. เครื่องตัดโลหะ
2. เครื่องบิน
3. ระบบเบรกรถยนต์
4. เครื่องปั๊มขึ้นรูป
ระบบไฮดรอลิกส์น้ำมันที่ใช้สำหรับยานพาหนะคือข้อใด
1. เครื่องไส
2. รถขุดตัก
3. ระบบเบรกของรถยนต์
4. เครื่องปั๊มขึ้นรูป
ระบบไฮดรอลิกส์น้ำมันที่ใช้สำหรับงานอุตสาหกรรมคือข้อใด
1. รถขุดตัก
2. เครื่องปั๊มขึ้นรูป
3. ระบบบังคับเลี้ยว
4. เครื่องบิน
จุดสำคัญในการตรวจรอยรั่วของระบบระบายความร้อนคือข้อใด
1. ข้อต่อท่อทางน้ำหล่อเย็น
2. ฝาหม้อน้ำ
3. เทอร์โมสตัท
4. ถังสำรองน้ำ
การปรับแต่งเครื่องยนต์มีความสำคัญอย่างไร
1. เพื่อให้เครื่องยนต์มีกำลังมากขึ้น
2. เพื่อให้ประหยัดเชื้อเพลิง
3. เพื่อความสมบูรณ์ในการทำงาน
4. เพื่อลดมลภาวะจากแก๊สไอเสียรถยนต์
หากระบบไฟฟ้าเครื่องยนต์มีปัญหาควรตรวจดูอุปกรณ์ใดเป็นอันดับแรก
1. แบตเตอรี่
2. อัลเทอร์เนเตอร์
3. มอเตอร์สตาร์ต
4. ฟิวส์
ข้อใดคือสาเหตุจากไส้กรองอากาศอุดตัน
1. เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง
2. ควันขาว
3. เครื่องยนต์ชำรุด
4. แหวนลูกสูบตาย
ข้อใดคือผลของปริมาณน้ำมันของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงไม่เพียงพอ
1. เครื่องยนต์ชำรุด
2. เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง
3. เครื่องยนต์สึกหรออย่างรวดเร็ว
4. ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงอุดตัน
ข้อใดคือผลของกำลังอัดรั่ว
1. น้ำมันเครื่องสกปรก
2. เครื่องยนต์ร้อนจัด
3. เครื่องยนต์เดินเบาไม่เรียบ
4. ซีลเพลาข้อเหวี่ยงชำรุด
ข้อใดคือสาเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์กินน้ำมันเครื่อง
1. เครื่องยนต์รอบสูงเกินไป
2. น้ำมันเครื่องไหลเข้าไปในห้องเผาไหม้
3. เครื่องยนต์ขาดการหล่อลื่น
4. เครื่องยนต์รอบต่ำเกินไป
ข้อใดไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ขาดการหล่อลื่น
1. เลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นใสเกินไป
2. เลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นหนืดเกินไป
3. น้ำมันหล่อลื่นต่ำกว่าระดับ H
4. น้ำมันหล่อลื่นสูงกว่าระดับ H

ข้อสอบประมวลผลความรู้ แผนกวิชาช่างยนต์ระดับชั้น ปวช.3

จงเลือกคำตอบที่ถูกต้อง