โครงสร้างของเครื่องยนต์เล็กแก๊สโซลีนและดีเซลมีลักษณะอย่างไร
- เครื่องยนต์เล็กแก๊สโซลีนมีน้ำหนักเบา ทำด้วยอะลูมิเนียม
- เครื่องยนต์เล็กดีเซลมีน้ำหนักมากทำด้วยเหล็กหล่อ
- เสื้อสูบเครื่องยนต์เล็กแก๊สโซลีนและดีเซลทำเป็นครีบ
- ข้อ ก. และข้อ ข. ถูก
ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์อยู่กับที่หมายถึง
- ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์อยู่กับที่มากกว่าเคลื่อนที่
- ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ที่มีน้ำหนักมาก
- ชิ้นส่วนอยู่กับที่ในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน
- ชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่น้อย
ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์เคลื่อนที่หมายถึง
- ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์เคลื่อนที่ในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน
- ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ที่มีน้ำหนักมาก
- ชิ้นส่วนอยู่กับที่ในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน
- ชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่น้อย
ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ที่เคลื่อนที่ข้อใดถูกต้อง
- เพลาข้อเหวี่ยง, ฝาสูบ
- ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ที่มีน้ำหนักมาก
- ชิ้นส่วนอยู่กับที่ในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน
- ชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่น้อย
ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ที่เป็นตัวสะสมแรงเฉื่อยของเครื่องยนต์ไว้เพื่อให้เพลาข้อเหวี่ยงหมุนในจังหวะ ต่อไปคืออะไร
- เพลาลูกเบี้ยว
- เพลาข้อเหวี่ยง
- ล้อช่วยแรง
- ลูกสูบ
ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ที่ทำหน้าที่ป้องกันกำลังอัดรั่วไหลในกระบอกสูบคืออะไร
- ลิ้นไอดี
- ลิ้นไอเสีย
- ปะเก็นฝาสูบ
- ลูกสูบ
การทำงานของเครื่องยนต์น้ำมันหล่อลื่นลูกสูบจะขึ้นไปห้องเผาไหม้ไม่ได้เพราะอะไร
- แหวนอัดป้องกันไม่ให้น้ำมันหล่อลื่นขึ้นไป
- น้ำมันหล่อลื่นไหลกลับโดยแรงดึงดูด
- แหวนน้ำมันป้องกันไม่ให้น้ำมันหล่อลื่นขึ้นไป
- แหวนอัดและแหวนน้ำมันป้องกันไม่ให้น้ำมันหล่อลื่นขึ้นไป
เพลาสมดุลที่ติดตั้งในเครื่องยนต์เล็กดีเซลทำหน้าที่อะไร
- ลดอาการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์
- ทำให้เครื่องยนต์แข็งแรง
- ประหยัดเชื้อเพลิง
- ป้องกันกำลังอัดรั่วไหล
ครีบของกระบอกสูบเครื่องยนต์เล็กทำไว้เพื่ออะไร
- สวยงาม
- น้ำหนักเบา
- ป้องกันลูกสูบติด
- เพิ่มพื้นที่ระบายความร้อน
ขนาดของหัวลูกสูบเล็กกว่ากระโปรงลูกสูบเพราะอะไร
- ให้ลูกสูบเคลื่อนที่สะดวก
- ให้น้ำหนักลูกสูบเบา
- ให้ลูกสูบขยายตัวเมื่อได้รับความร้อน
- ป้องกันลูกสูบติด
บ่าวาล์วเป็นที่นั่งของวาล์วให้หน้าวาล์วสัมผัสกับบ่าวาล์วให้สนิทเพื่ออะไร
- ป้องกันการรั่วของไอดีและแก๊สในห้องเผาไหม้
- ป้องกันไม่ให้น้ำหล่อเย็นไหลเข้าห้องเผาไหม้
- ป้องกันน้ำมันเครื่องรั่วไหล
- ป้องกันน้ำมันเชื้อเพลิงรั่วออกจากห้องเผาไหม้
ก้านวิดน้ำมันของเครื่องยนต์เล็กแก๊สโซลีนทำหน้าที่อะไร
- ทำให้ก้านสูบหล่อลื่นดีขึ้น
- ทำให้ไม่ต้องใช้ปั๊มน้ำมัน
- วิดสาดน้ำมันหล่อลื่นให้ไปหล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์
- ทำให้ก้านสูบสมดุล
กลไกลดกำลังอัดทำหน้าที่อะไร
- ยกวาล์วไอเสียให้เปิดในขณะที่ดึงเชือกสตาร์ตเครื่องยนต์
- ยกวาล์วไอดีให้เปิดในขณะที่ดึงเชือกสตาร์ตเครื่องยนต์
- ยกวาล์วไอดี ไอเสียให้เปิดในขณะที่ดึงเชือกสตาร์ตเครื่องยนต์
- เปิดวาล์วค้างไว้
เครื่องยนต์เล็กดีเซล 4 จังหวะ ทำงานครบรอบ 1 กลวัตร เพลาข้อเหวี่ยงจะหมุนกี่รอบ
- 1 รอบ
- 2 รอบ
- 3 รอบ
- 4 รอบ
การทำงานของเครื่องยนต์เล็กดีเซล 4 จังหวะ หัวฉีดจะฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ตำแหน่งไหน
- จุดศูนย์ตายบน
- จุดศูนย์ตายล่าง
- ก่อนจุดศูนย์ตายล่าง
- ก่อนจุดศูนย์ตายบนเล็กน้อย
การทำงานของเครื่องยนต์เล็กแก๊สโซลีน 2 จังหวะ จังหวะที่ทำงานพร้อมกันคือจังหวะ
- จังหวะดูดและจังหวะคาย
- จังหวะดูดและจังหวะอัด
- จังหวะอัดและจังหวะระเบิด
- จังหวะอัดและจังหวะคาย
การบรรจุไอดีของเครื่องยนต์เล็กแก๊สโซลีน 2 จังหวะจะถูกบรรจุที่ส่วนใดของเครื่องยนต์
- กระบอกสูบ
- หัวลูกสูบ
- ห้องเพลาข้อเหวี่ยง
- ด้านข้างเสื้อสูบ
เครื่องยนต์เล็กแก๊สโซลีน 2 จังหวะ ลูกสูบเลื่อนขึ้นจากจุดศูนย์ตายล่างสู่ศูนย์ตายบนเป็นจังหวะ
- ดูด
- ดูด อัด
- ระเบิด
- ระเบิด คาย
โอเวอร์แลปหมายถึง
- วาล์วไอดีปิด วาล์วไอเสียปิด
- วาล์วไอดีเปิด วาล์วไอเสียปิด
- วาล์วไอดีเปิด วาล์วไอเสียเปิด
- วาล์วไอดีปิด วาล์วไอเสียเปิด
วาล์วไทมิ่งไดอะแกรมแสดงถึงการทำงานของ
- จังหวะการเปิด ปิดของลิ้นไอดี
- จังหวะการเปิด ปิดของลิ้นไอดีและไอเสีย
- จังหวะการจุดระเบิด
- จังหวะการผสมเชื้อเพลิง
ไดอะแกรมการเปิด ปิดวาล์วของเครื่องยนต์เล็กแก๊สโซลีน 4 จังหวะ จะแสดงให้รู้ว่าหัวเทียนจะจุด ระเบิดตำแหน่งใด
- หลังศูนย์ตายล่าง
- ก่อนศูนย์ตายล่าง
- หลังศูนย์ตายบน
- ก่อนศูนย์ตายบน
วิวัฒนาการของรถจักรยานยนต์เริ่มตั้งแต่ศตวรรษที่เท่าไร
- ศตวรรษที่ 17
- ศตวรรษที่ 18
- ศตวรรษที่ 19
- ศตวรรษที่ 20
มีการปรับปรุงรถจักรยานยนต์ให้มีขนาดเล็กลงในศตวรรษใด
- ศตวรรษที่ 17
- ศตวรรษที่ 18
- ศตวรรษที่ 19
- ศตวรรษที่ 20
เครื่องมืองานซ่อมรถจักรยานยนต์แบ่งออกเป็นกี่ประเภท
- 2 ประเภท
- 3 ประเภท
- 4 ประเภท
- 5 ประเภท
ข้อใดคือเครื่องมือทั่วไป
- ไขควงแบน
- มัลติมิเตอร์
- ตัวจับล้อแม่เหล็ก
- ไทม์มิ่งไลต์
เครื่องมือพิเศษในงานซ่อมรถจักรยานยนต์คืออะไร
- งานที่ใช้เครื่องมืออื่นๆ ไม่ได้
- เครื่องมือประจำรถ
- ใช้วัดขนาดและตรวจสอบ
- เครื่องมือใดก็ได้ที่สามารถถอดชิ้นส่วนได้
ข้อใดคือเครื่องมือพิเศษ
- ไขควงแบน
- ตัวจับล้อแม่เหล็ก
- ไทม์มิ่งไลต์
- ค้อนพลาสติก
เครื่องมือชนิดใดที่ใช้สำหรับตรวจสอบตำแหน่งการจุดระเบิด
- พ็อกเก็ตเทสเตอร์
- ไฮโดรมิเตอร์
- ไทม์มิ่งไลต์
- ไดอัลเกจ
ข้อใดคือเครื่องมือวัดทางกล
- เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์
- ไทม์มิ่งไลต์
- พ็อกเก็ตเทสเตอร์
- เครื่องมือวัดรอบ
ความปลอดภัยในการทำงานคืออะไร
- สภาพที่ปลอดภัยจากอุบัติเหตุต่าง ๆ
- สภาพที่ปลอดภัยจากอุบัติเหตุต่าง ๆ เกิดแก่ร่างกาย
- สภาพที่ปลอดภัยจากอุบัติเหตุต่าง ๆ เกิดแก่ร่างกาย ชีวิต
- สภาพที่ปลอดภัยจากอุบัติเหตุต่าง ๆ เกิดแก่ร่างกาย ชีวิต หรือทรัพย์สินในขณะที่ปฏิบัติงาน
อุบัติเหตุคืออะไร
- เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดหมาย
- เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคาดหมาย
- เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ
- เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
เครื่องยนต์หมายถึงอะไร
- อุปกรณ์ที่สามารถเปลี่ยนพลังงานความร้อนให้เป็นพลังงานกล
- อุปกรณ์ที่สามารถเปลี่ยนพลังงานกลให้เป็นพลังงานความร้อน
- อุปกรณ์ที่สามารถเปลี่ยนพลังงานความร้อนให้เป็นพลังงานไฟฟ้า
- อุปกรณ์ที่สามารถเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานกล
เครื่องยนต์แบ่งออกได้ 2 ชนิดคืออะไรบ้าง
- เครื่องยนต์เผาไหม้ภายในและเครื่องยนต์เผาไหม้ภายนอก
- เครื่องยนต์เผาไหม้ภายในและเครื่องยนต์ดีเซล
- เครื่องยนต์เผาไหม้ภายนอกและเครื่องยนต์เบนซิน
- เครื่องยนต์ 4 จังหวะ และเครื่องยนต์ 2 จังหวะ
เครื่องยนต์ 2 จังหวะ การทำงานจังหวะใดที่ซ้อนกัน
- จังหวะดูด และจังหวะอัด
- จังหวะระเบิด และจังหวะดูด
- จังหวะอัด และจังหวะระเบิด
- จังหวะดูด และจังหวะคาย
การทำงาน 1 กลวัตร ของเครื่องยนต์ 2 จังหวะ เพลาข้อเหวี่ยงหมุนกี่รอบ
- 1 รอบ
- 2 รอบ
- 3 รอบ
- 4 รอบ
ระบบประจุไอดีของรถจักรยานยนต์ 2 จังหวะมีกี่แบบ
- 2 แบบ
- 4 แบบ
- 3 แบบ
- 5 แบบ
แหวนลูกสูบของเครื่องยนต์ 2 จังหวะ มีกี่ตัว
- 2 ตัว
- 4 ตัว
- 3 ตัว
- 5 ตัว
ระยะชักของเครื่องยนต์ หมายถึงอะไร
- ระยะที่ลูกสูบขึ้นสูงสุด
- ระยะศูนย์ตายล่าง
- ระยะที่ลูกสูบลงต่ำสุด
- ระยะจากศูนย์ตายบนถึงศูนย์ตายล่าง
เครื่องยนต์ 4 จังหวะ ปัจจุบันใช้กลไกการบังคับวาล์วแบบใด
- แบบวาล์วด้านข้าง (SV)
- แบบวาล์วบนฝาสูบ (OHV)
- แบบเพลาลูกเบี้ยวบนฝาสูบ (SOHC)
- แบบเพลาลูกเบี้ยวคู่บนฝาสูบ (DOHC)
กลไกการบังคับวาล์วแบบใดที่วาล์วไอดี–ไอเสียทำงานโดยตรงจากเพลาลูกเบี้ยว
- แบบวาล์วด้านข้าง (SV)
- แบบวาล์วบนฝาสูบ (OHV)
- แบบเพลาลูกเบี้ยวบนฝาสูบ (SOHC)
- แบบเพลาลูกเบี้ยวคู่บนฝาสูบ (DOHC)
แหวนลูกสูบรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะมีกี่ตัว
- 4 ตัว
- 3 ตัว
- 2 ตัว
- 1 ตัว
วาล์วเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่คือวาล์วใด
- วาล์วไอดี
- วาล์วไอเสีย
- วาล์วไอดีและไอเสีย
- วาล์วเชื้อเพลิง
ปั๊มน้ำมันเครื่องยนต์ 4 จังหวะ สามารถแบ่งออกได้กี่แบบ
- 2 แบบ
- 3 แบบ
- 4 แบบ
- 5 แบบ
ปั๊มน้ำมันเครื่องยนต์ 4 จังหวะนิยมใช้แบบใด
- แบบแยกส่วน
- แบบโรเตอร์
- แบบเฟือง
- แบบผสม
โรเตอร์ตัวในติดตั้งอยู่กับส่วนประกอบอะไร
- เรือนปั๊ม
- โรเตอร์ตัวนอก
- เฟืองขับปั๊ม
- ช้อนวิดน้ำมัน
การหล่อลื่นในห้องเพลาข้อหวี่ยงทำหน้าที่หล่อลื่นชิ้นส่วนใด
- เฟืองเกียร์
- แผ่นคลัตช์
- ล้อแม่เหล็ก
- ก้านสูบ
ข้อใดไม่ใช่ส่วนประกอบของระบบส่งกำลัง
- ชุดคลัตช์
- ชุดเกียร์
- อัตราทดขั้นสุดท้าย
- ก้านสูบ
คลัตช์รถจักรยานยนต์ทำหน้าที่อะไร
- ตัด–ต่อกำลังงานระหว่างเครื่องยนต์กับเกียร์
- ส่งกำลังงานจากเกียร์ไปขับที่โซ่
- เพิ่มแรงบิดของเครื่องยนต์
- เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่
ภายในห้องคลัตช์จะบรรจุอะไร
- น้ำหล่อเย็น
- จาระบี
- น้ำมันหล่อลื่น
- น้ำมันเกียร์
อัตราทดสูง เฟืองเล็กขับเฟืองใหญ่ได้อัตราทดมากใช้สำหรับสภาวะใด
- ความเร็วรอบต่ำ
- ความเร็วสูงสุด
- ความเร็วปานกลาง
- เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่
ความฝืด เกิดกับส่วนใดในคลัตซ์ที่ทำงานโดยอาศัยความฝืด
- ล้อต้นกำลัง
- สปริงไดอะเฟรม
- ผ้าคลัตซ์
- เสื้อคลัตซ์
ถ้าแผ่นกดคลัตซ์ไม่ถูกสปริงกดอัดจะเกิดอะไรขึ้น
- เสื้อคลัตซ์จะหมุนไปกับแผ่นคลัตซ์
- แผ่นคลัตซ์จะหมุนไปกับล้อตุนกำลัง
- แผ่นกดคลัตซ์จะติดอยู่กับแผ่นคลัตซ์
- แผ่นคลัตซ์ไม่ส่งกำลังงาน
คลัตซ์แบบสปริงไดอะเฟรมและแบบสปริงขดเป็นคลัตซ์ชนิดใด
- คลัตซ์ใช้แรงเหวี่ยง
- คลัตซ์อาศัยความเสียดทาน
- คลัตซ์อาศัยอำนาจแม่เหล็ก
- คลัตซ์อาศัยของเหลว
ถ้าสปริงขดยุบตัวข้อใดกล่าวถูกต้อง
- เสื้อคลัตซ์กดสปริง
- แผ่นกดคลัตซ์กดอัดแผ่นคลัตซ์
- แผ่นกดคลัตซ์ถูกนิ้วคลัตซ์ยกขึ้น
- นิ้วคลัตซ์ถูกสปริงขดกดให้ยุบตัว
คลัตซ์ติดตั้งอยู่ระหว่างอุปกรณ์ใด
- เครื่องยนต์กับล้อตุนกำลัง
- ล้อตุนกำลังกับเพลากลาง
- เครื่องยนต์กับกระปุกเกียร์
- ล้อตุนกำลังกับเฟืองท้าย
ดุมคลัตซ์ถูกออกแบบเป็นร่องฟัน (Spline) เพื่ออะไร
- เพื่อเลื่อนไปมาได้ขณะคลัตซ์ตัดกำลัง
- เพื่อสวมกับเพลาคลัตซ์ตลอดเวลา
- เพื่อให้ส่งกำลังงานได้
- เพื่อเป็นร่องสวมกับล้อตุนกำลัง
อุปกรณ์ใดที่หมุนไปพร้อมกับล้อตุนกำลังตลอดเวลา
- แผ่นคลัตซ์
- เพลาคลัตซ์
- ลูกปืนคลัตซ์
- เสื้อคลัตซ์
เมื่อแผ่นคลัตซ์ถูกกดในขณะทำงาน ชิ้นส่วนใดรับแรงกระแทกที่เกิดขึ้น
- ผ้าคลัตซ์
- จานเหล็กกลม
- ดุมคลัตซ์
- สปริงด้านแรงบิด
คลัตซ์ทำหน้าที่อะไรในระบบส่งกำลัง
- ตัดต่อกำลังจากเครื่องยนต์ไปเพลากลาง
- ตัดต่อกำลังระหว่างเครื่องยนต์กับล้อตุนกำลัง
- ตัดต่อกำลังระหว่างเครื่องยนต์กับกระปุกเกียร์
- ตัดต่อกำลังระหว่างคลัตซ์กับล้อตุนกำลัง
คลัตซ์แบ่งตามลักษณะการทำงานได้กี่ชนิด
- 1 ชนิด
- 2 ชนิด
- 3 ชนิด
- 4 ชนิด
ข้อดีของคลัตซ์ที่อาศัยความเสียดทานสองแผ่นคือข้อใด
- มีกำลังจับยึดสูง
- ส่งกำลังได้นิ่มนวลกว่า
- มีผ้าคลัตซ์มากกว่ามีกำลังจับยึดสูง
- ใช้กับรถยนต์ที่มีแรงขับเคลื่อนน้อย
ข้อใดกล่าวถูกต้อง
- คลัตซ์แบบเปียกอาศัยแผ่นคลัตซ์เพียงแผ่นเดียว
- คลัตซ์แบบเปียกมีผ้าคลัตซ์หลายแผ่น
- คลัตซ์แบบเปียกประกอบอยู่ระหว่างล้อตุนกำลังกับเพลากลาง
- คลัตซ์แบบเปียกใช้กับรถยนต์ขนาดเล็ก
ข้อใดเป็นการส่งกำลังงานของคลัตซ์แบบอาศัยอำนาจแม่เหล็ก
- เครื่องยนต์ > ล้อตุนกำลัง > ผงเหล็ก > แผ่นคลัตซ์
- เครื่องยนต์ > ผงเหล็ก > แผ่นคลัตซ์ > ล้อตุนกำลัง
- เครื่องยนต์ > ล้อตุนกำลัง > ผงเหล็ก > เกียร์
- เครื่องยนต์ > ล้อช่วยแรง > แผ่นคลัตซ์ > เพลาคลัตซ์
ส่วนประกอบที่สำคัญของชุดต่อประกอบแบบของไหล (Fluid Coupling) คือข้อใด
- ปั๊ม , สเตเตอร์ , เทอร์ไบน์
- ปั๊ม , สเตเตอร์
- ปั๊ม , เทอร์ไบน์
- สเตเตอร์ , ตัวตาม
“น้ำมันจากใบพัดตัวขับวิ่งเข้าชนใบพัดตัวตามแล้วย้อนกลับมายังตัวขับอีก” อาการนี้จะทำให้เกิดอะไร กับชุดต่อประกอบแบบของไหล
- ไม่สามารถเพิ่มแรงบิดได้
- คลัตซ์สูญเสียพลังงาน
- ความเร็วตัวขับแตกต่างจากตัวตาม
- เพิ่มแรงบิดได้มากกว่าเดิม
ข้อใดบอกการส่งกำลังงานคลัตซ์ที่ใช้ของเหลวได้ถูกต้อง
- ล้อตุนกำลัง > ปั๊ม > ตัวตาม
- เสื้อคลัตซ์ > แผ่นคลัตซ์ > เพลาคลัตซ์
- ล้อตุนกำลัง > สเตเตอร์ > ปั๊ม > ตัวตาม
- ปั๊ม > สเตเตอร์ > เทอร์ไบน์
เมื่อเหยียบคันเหยียบคลัตซ์สุดระยะแล้วคลัตซ์ไม่ตัดกำลังงานเป็นเพราะเหตุใด
- แม่ปั๊มคลัตซ์ส่งแรงดันน้ำมันคลัตซ์ให้ปั๊มคลัตซ์ล่างมากเกินไป
- สายคลัตซ์ไม่เคลื่อนที่
- ความสูงคันเหยียบคลัตซ์มากเกินไป
- ระยะฟรีคันเหยียบคลัตซ์มากเกินไป
คลัตซ์ไม่ส่งกำลังหรือคลัตซ์ลื่นสาเหตุมาจากข้อใด
- หน้าสัมผัสผ้าคลัตซ์ถูกกดแน่นมากไป
- ไม่มีระยะฟรีคลัตซ์
- ปั๊มคลัตซ์บนไม่ทำงาน
- สายคลัตซ์ขาด
ชิ้นส่วนใดที่คลัตซ์แบบสปริงไดอะเฟรมไม่มี
- นิ้วคลัตซ์ แผ่นคลัตซ์
- แผ่นคลัตซ์ แผ่นกดคลัตซ์
- สปริงขด นิ้วคลัตซ์
- แผ่นกดคลัตซ์ นิ้วคลัตซ์
ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
- คลัตซ์แบบความฝืดนิยมใช้กันมีอยู่ 2 ชนิด
- คลัตซ์ที่อาศัยแม่เหล็กนิยมใช้ในรถยนต์
- คลัตซ์ที่ทำงานด้วยของเหลวไม่นิยมใช้ในรถยนต์
- คลัตซ์แบบความฝืดใช้น้ำมันเป็นตัวส่งกำลัง
ข้อใดไม่ใช่เกียร์แบบมาตรฐาน
- แบบอัตโนมัติ
- แบบเฟืองขบกันตลอดเวลา
- แบบเลื่อนเฟืองเข้าขบ
- แบบซิงโครเมช
ข้อใดไม่ใช่ชิ้นส่วนของชุดตัวประสานเฟือง
- เฟืองทองเหลือง
- ฟันหน้าเฟือง
- ปลอกเลื่อน
- ลิ่มเลื่อน
นักเรียนรู้ว่าเกียร์ทำหน้าที่เพิ่มแรงบิด นักเรียนรู้หรือไม่ว่าเกียร์ใดให้แรงบิดมากที่สุด
- เกียร์ว่าง
- เกียร์ 1
- เกียร์ 2
- เกียร์ 5
เกียร์แบบเลื่อนเฟืองเข้าขบฟันเฟืองของเกียร์เป็นแบบ
- เฟืองฟันเฉียง
- เฟืองตัวหนอน
- เฟืองฟันเฉียงและฟันตรง
- เฟืองฟันตรง
ขณะที่เริ่มออกรถอัตราทดที่เกียร์ควรจะเป็นอย่างไร
- อัตราทดเกียร์สูง
- อัตราทดเกียร์ต่ำ
- อัตราทดไม่มี
- อัตราทดเท่ากับเครื่องยนต์
เกียร์ติดตั้งอยู่ระหว่างอุปกรณ์ใด
- เครื่องยนต์กับเฟืองท้าย
- เครื่องยนต์กับคลัตซ์
- คลัตซ์กับเพลากลาง
- คลัตซ์กับเพลาท้าย
เกียร์ชนิดใดที่มีคลัตซ์เกียร์เชื่อมต่อเข้ากับเกียร์
- แบบเฟืองเลื่อน
- แบบซิงโครเมซ
- แบบโอเวอร์ไดรฟ์
- แบบเฟืองขบกันตลอดเวลา
ถ้าเราเข้าเกียร์ 4 เฟืองใดที่แหวนทองเหลืองชะลอความเร็ว
- เฟืองเพลารอง
- เฟืองเพลาคลัตซ์
- เฟืองตามเพลากำลัง
- เฟืองตามเกียร์ 4
เกียรใดในเกียร์แบบมาตรฐานที่ยังคงใช้เฟืองฟันตรงอยู่
- ถอยหลัง
- เกียร์ 1
- เกียร์ 4
- เกียร์ 5
เพลาคลัตซ์ส่งกำลังโดยตรงไปยังเพลากำลังในเกียร์แบบซิงโครเมซคือตำแหน่งใด
- เกียร์ 1
- เกียร์ 2
- เกียร์ 3
- เกียร์ 4
เกียร์แบบเลื่อนเฟือง เฟืองที่อยู่หน้าเฟืองเพลาคลัตซ์และอยู่หน้าเฟืองเกียร์ 2 เรียกเฟืองนี้ว่าอะไร
- เดือยเฟือง
- ซิงโครไนเซอร์
- เฟืองเกียร์ 2
- เฟืองเกียร์ 3
เกียร์แบบใดที่เฟืองเข้าขบกันแล้วเกิดเสียงดังมาก
- เฟืองขบกันตลอดเวลา
- เลื่อนเฟืองเข้าขบ
- ซิงโครเมซ
- โอเวอร์ไดรฟ์
ขณะเข้าเกียร์ความเร็วปลอกเลื่อนกับเฟืองไม่เท่ากันคือเกียร์แบบใด
- เลื่อนเฟืองเข้าขบ
- ซิงโครเมซ
- เฟืองขบกันตลอดเวลา
- โอเวอร์ไดรฟ์
ขณะเข้าเกียร์ความเร็วปลอกเลื่อนกับเฟืองเท่ากันคือเกียร์แบบใด
- เฟืองขบกันตลอดเวลา
- เลื่อนเฟืองเข้าขบ
- โอเวอร์ไดรฟ์
- ซิงโครเมซ
ความเร็วเพลากลางมากกว่าความเร็วเพลาคลัตซ์คือเกียร์แบบใด
- เฟืองขบกันตลอดเวลา
- เลื่อนเฟืองเข้าขบ
- โอเวอร์ไดรฟ์
- คลัตซ์เกียร์
อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ชะลอความเร็วของเฟืองบนเพลากำลังในเกียร์แบบซิงโครเมซคือข้อใด
- ฟันหน้าเฟือง
- ปลอกเลื่อน
- เฟืองทองเหลือง
- คลัตซ์เกียร์
ก่อนที่จะเลื่อนคันเข้าเกียร์ไปยังตำแหน่งเกียร์อื่นต้องถอยคันเข้าเกียร์มาตำแหน่งใด
- เกียร์ 1
- เกียร์ 3
- เกียร์ 5
- เกียร์ว่าง
เกียร์แบบซิงโครเมซชนิด 5 เกียร์ เฟืองจะขบกันตลอดเวลาจำนวนกี่คู่
- 4 คู่
- 5 คู่
- 6 คู่
- 7 คู่
เพลากลางติดตั้งอยู่ระหว่างอุปกรณ์ใด
- เกียร์กับเพลาท้าย
- เกียร์กับเฟืองท้าย
- เกียร์กับเฟืองขับ
- เกียร์กับแหนบ
รถยนต์ประเภทใดต่อไปนี้ที่ใช้เพลากลาง
- เครื่องหน้าขับหน้า
- เครื่องหน้าขับหลัง
- เครื่องหลังขับหลัง
- ถูกทุกข้อ
ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของเพลากลาง
- ส่งถ่ายแรงบิดและอาการหมุน
- ส่งถ่ายแรงบิดขณะล้อเต้นขึ้น–ลง
- ส่งถ่ายแรงบิดขณะเพลากลางเปลี่ยนมุม
- ส่งถ่ายแรงบิดขณะเกียร์ตัดกำลัง
เพลากลางแบ่งออกเป็นกี่ชนิด
- 2 ชนิด
- 3 ชนิด
- 4 ชนิด
- 5 ชนิด
เพลากลางชนิดใดที่มีเพลากลมตันสอดอยู่ภายใน
- เพลาท่อนเดียว
- เพลากลางท่อนเดียว
- เพลากลางท่อแรงบิด
- เพลากลางใช้ข้อต่อ
เพลากลางที่ใช้ข้อต่อมากกว่าสามตัวคือข้อใด
- เพลากลางสองท่อน
- เพลากลางท่อนเดียว
- เพลากลางท่อแรงบิด
- เพลากลางใช้ข้อต่อ
เพลากลางที่ใช้ข้อต่อชนิดกากบาทสามตัวคือข้อใด
- เพลาท่อนเดียว
- เพลากลางสองท่อน
- เพลากลางท่อแรงบิด
- ผิดทุกข้อ
การขับเคลื่อนตัวรถให้เคลื่อนที่โดยผ่านจากล้อไปเพลากลางและไปผ่านตัวรถ คือเพลากลางชนิดใด
- เพลาท่อนเดียว
- เพลากลางท่อนเดียว
- เพลากลางท่อแรงบิด
- เพลากลางใช้ข้อต่อ
ขณะที่เพลากลางและกระปุกเกียร์อยู่ในระนาบเดียวเป็นผลให้เพลากลางมีลักษณะอย่างไร
- เพลากลางยาวที่สุด
- เพลากลางคดงอ
- เพลากลางสั้นที่สุด
- เพลากลางหมุนเร็วที่สุด
เพลากลางรับกำลังงานจากเพลาใด
- เพลาคลัตซ์
- เพลารอง
- เพลาข้อเหวี่ยง
- เพลากำลัง
ข้อต่อชนิดใดที่นิยมใช้กับเพลากลาง
- ข้อต่อกากบาท–ข้อต่อเลื่อน
- ข้อต่อกากบาท–ข้อต่อความเร็วคงที่
- ข้อต่อยาง–ข้อต่อกากบาท
- ข้อต่อสลักร้อยลูกกลิ้ง–ข้อต่อเลื่อน
โครงสร้างของเพลากลางชนิดใดที่มีลูกปืนรองรับ
- เพลากลางท่อนเดียว
- เพลากลางท่อแรงบิด
- เพลากลางใช้ข้อต่อ
- เพลากลางสองท่อน
ข้อต่ออ่อนชนิดใดส่งกำลังได้สม่ำเสมอดี
- ความเร็วคงที่–ชนิดยางและผ้าใบ
- กากบาท–ชนิดยางและผ้าใบ
- ข้อต่อสลักร้อยลูกกลิ้ง–ความเร็วคงที่
- ข้อต่อสลักร้อยลูกกลิ้ง–กากบาท
ข้อต่อชนิดใดที่ทำหน้าให้เพลากลางเปลี่ยนความยาวได้
- ข้อต่อกากบาท
- ข้อต่อความเร็วคงที่
- ข้อต่อสลักร้อยลูกกลิ้ง
- ข้อต่อเลื่อน
ข้อต่อชนิดใดไม่สามารถทำให้เพลากลางเปลี่ยนแปลงมุมได้
- ข้อต่อกากบาท
- ข้อต่อเลื่อน
- ข้อต่อความเร็วคงที่
- ข้อต่อชนิดยางและชนิดผ้าใบ
ข้อต่ออ่อนชนิดใดที่นิยมใช้กับเพลาขับล้อหน้า
- ข้อต่อกากบาท
- ข้อต่อเลื่อน
- ข้อต่อความเร็วคงที่
- ข้อต่อสลักร้อยลูกกลิ้ง
ส่วนประกอบที่เรียกว่ารางในคือชิ้นส่วนของข้อต่อใด
- ข้อต่อกากบาท
- ข้อต่อเลื่อน
- ข้อต่อชนิดยางและชนิดผ้าใบ
- ข้อต่อความเร็วคงที่
ข้อต่อชนิดใดในเพลากลางที่สวมอยู่ในเพลาเกียร์
- ข้อต่อกากบาท
- ข้อต่อเลื่อน
- ข้อต่อความเร็วคงที่
- ข้อต่อชนิดยางและชนิดผ้าใบ
ข้อต่อเลื่อนและข้อต่ออ่อนยึดติดเข้าด้วยกันโดยอุปกรณ์ใด
- กากบาท
- ก้ามปู
- ร่องฟัน
- แกนเพลากลาง
ร่องฟันใช้กับข้อต่อชนิดใด
- ข้อต่อกากบาท
- ข้อต่อความเร็วคงที่
- ข้อต่อเลื่อน
- ข้อต่อยางและผ้าใบ
เพลาขับล้อแบ่งออกเป็นกี่แบบ
- 1 แบบ
- 2 แบบ
- 3 แบบ
- 4 แบบ
เพลาขับล้อรับแรงขับมาจากข้อใด
- เครื่องยนต์
- เกียร์
- ชุดเฟืองดอกจอก
- เพลากำลัง
เพลาขับล้อหน้าข้างหนึ่งใช้ข้อต่ออ่อนกี่ตัว
- 2 ตัว
- 3 ตัว
- 4 ตัว
- 5 ตัว
เหตุที่เพลาขับล้อหน้าต้องใช้ข้อต่ออ่อนเพราะเหตุใด
- เพลามีโอกาสสั้นยาวได้
- เพลาได้รับแรงเบียดด้านข้าง
- เพลารับแรงหมุนและแรงบิด
- เพลาเปลี่ยนมุมตามล้อเต้น
ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของเพลาขับล้อหน้า
- รับแรงบิดจากการส่งกำลัง
- รับน้ำหนักของรถ
- รับแรงหมุนจากเฟืองดอกจอก
- รับแรงเบียดด้านข้าง
ข้อใดไม่ใช้ส่วนประกอบของข้อต่ออ่อนเพลาขับล้อหน้าเบอร์ฟิลด์เซปปา
- ฝาครอบ
- ลูกปืนกลม
- รางนอก
- กรอบลูกปืน
ข้อต่ออ่อนด้านที่ติดกับล้อรถยนต์ (ตัวนอก) ทำหน้าที่อะไร
- ยึดล้อกับเพลาขับ
- ยอมให้เพลาสั้นยาวได้
- รับน้ำหนักรถ
- ยอมให้ล้อหันเลี้ยวได้
ข้อต่อตัวที่อยู่ติดกับชุดเกียร์ (ด้านใน) ทำหน้าที่อะไร
- ยึดล้อกับเพลาขับ
- ยอมให้เพลาสั้นยาวได้
- รับน้ำหนักรถ
- ยอมให้ล้อหันเลี้ยวได้
ข้อใดที่ไม่ใช่หน้าที่ของข้อต่ออ่อนแบบสามขา
- ใช้ลูกปืนกลมรับส่งแรงบิด
- ติดตั้งอยู่ทางด้านล้อ
- รับแรงสั่นได้ทั้งแนวตั้งแนวนอน
- ลูกกลิ้งวิ่งไปบนกรอบ
ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง
- เพลาขับล้อหน้ารับกำลังงานจากเกียร์ส่งกำลังโดยตรง
- ข้อต่ออ่อนแบบสามขาติดตั้งอยู่ด้านนอกติดกับล้อ
- เพลาขับล้อหน้าใช้ข้อต่อเพียงจุดเดียว
- การหันเลี้ยวทำให้เกิดแรงเบียดที่เพลาขับล้อหน้า
ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง
- ข้อต่อเลื่อนไม่มีติดตั้งในเพลาขับล้อหน้า
- ข้อต่อแบบสามขาเป็นข้อต่อเลื่อนอยู่ในตัว
- ข้อต่อแบบฟิลด์เชปปาเป็นข้อต่อเลื่อนในตัว
- ขณะที่เพลาหน้าทำมุมมาก ขณะล้อเต้นขึ้นลงเพลาจะสั้นลง
ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของเพลาขับล้อหลัง
- สวมอยู่ในเสื้อเพลาท้าย
- ยึดติดตั้งล้อ
- ส่งถ่ายกำลังผ่านโครงรถ
- รองรับน้ำหนักรถ
ข้อใด ไม่ใช่ การบำรุงรักษารถยนต์
- เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเมื่อครบระยะเวลาที่กำหนด
- ตรวจสอบความดันลมยางเมื่อต้องใช้รถเดินทางไกล
- ตรวจสอบระดับน้ำยาในแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับ
- น้ำมันเบรกไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเมื่อครบระยะเวลาที่กำหนด
ยางรถยนต์มีรอยฉีกขาดเพียงเล็กน้อยควรทำอย่างไร
- ใช้งานรถยนต์ตามปกติ
- เปลี่ยนยางใหม่ทันที
- ลดแรงดันลมยางลง
- เพิ่มแรงดันลมยาง
ความดันลมยางของรถกระบะอยู่ที่ประมาณเท่าไร
- 30 – 35 PSI
- 36 – 40 PSI
- 41 – 45 PSI
- 46 – 50 PSI
ระดับของน้ำมันเครื่องบนก้านวัดที่ถูกต้องควรอยู่ตำแหน่งใด
- ต่ำกว่าจุดต่ำสุด (L)
- สูงกว่าจุดสูงสุด (F)
- อยู่ระหว่างจุดสูงสุด (F) หรือจุดต่ำสุด (L)
- สูงกว่าจุดสูงสุด (F) หรือต่ำกว่าจุดต่ำสุด (L)
ระดับของน้ำมันเบรกควรอยู่ตำแหน่งใด
- COLD
- LOW
- MIN
- MAX
น้ำมันเครื่องควรเปลี่ยนเมื่อรถใช้งานไปประมาณกี่กิโลเมตร
- 10,000 กม.
- 20,000 กม.
- 30,000 กม.
- 40,000 กม.
กรองน้ำมันเครื่องควรเปลี่ยนเมื่อรถใช้งานไปประมาณกี่กิโลเมตร
- 10,000 กม.
- 20,000 กม.
- 30,000 กม.
- 40,000 กม.
น้ำมันเฟืองท้ายควรเปลี่ยนเมื่อรถใช้งานไปประมาณกี่กิโลเมตร
- 30,000 กม.
- 40,000 กม.
- 50,000 กม.
- 60,000 กม.
แผ่นกรองอากาศเครื่องปรับอากาศควรเปลี่ยนเมื่อรถใช้งานไปประมาณกี่กิโลเมตร
- 10,000 กม.
- 20,000 กม.
- 30,000 กม.
- 50,000 กม.
แรงดันลมยางควรตรวจสอบเมื่อรถใช้งานไปประมาณกี่กิโลเมตร
- 10,000 กม.
- 20,000 กม.
- 30,000 กม.
- 50,000 กม.
ข้อใด ไม่ใช่ หน้าที่ของหม้อน้ำรถยนต์
- กักเก็บน้ำ
- ระบายความร้อนออกจากน้ำ
- เพิ่มอุณหภูมิของน้ำ
- ลดอุณหภูมิของน้ำ
ข้อใดเป็นส่วนประกอบของหม้อน้ำรถยนต์
- ครีบระบายความร้อน
- กระบังลม
- ปั๊มน้ำ
- เทอร์โมสตัท
ข้อใดคือทิศทางการถ่ายเทความร้อนออกจากน้ำที่ถูกต้อง
- น้ำ ท่อทางเดินน้ำ ครีบระบายความร้อน อากาศ
- ท่อทางเดินน้ำ ครีบระบายความร้อน น้ำ อากาศ
- ครีบระบายความร้อน น้ำ ท่อทางเดินน้ำ อากาศ
- อากาศ น้ำ ท่อทางเดินน้ำ ครีบระบายความร้อน
อุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นควรเป็นอย่างไรก่อนที่จะมีการถ่ายน้ำออก
- ร้อนจัด
- เย็นจัด
- เย็น
- อุ่น
ระดับน้ำในถังพักน้ำสรองควรอยู่ตำแหน่งใด
- HOT
- MAX
- MIN
- LOW
ครีบระบายความร้อนของหม้อน้ำพับงอควรแก้ไขอย่างไร
- เปลี่ยนหม้อน้ำใหม่
- ใช้ใบเลื่อยหรือโลหะบาง ๆ ดัดให้ตรง
- ใช้น้ำแรงดันสูงฉีดเพื่อให้ครีบตรง
- ถอดหม้อน้ำออกแล้วเปลี่ยนครีบใหม่
ข้อใด ไม่ใช่ การบำรุงรักษาหม้อน้ำ
- เปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อย ๆ
- ใช้น้ำยาหม้อน้ำ
- ใช้น้ำสะอาดในการเติมหม้อน้ำ
- ใช้น้ำยาบำรุงรักษาเครื่องยนต์
ถังพักน้ำสำรองมีหน้าที่อย่างไร
- เพิ่มปริมาณของน้ำหล่อเย็น
- กักเก็บน้ำเพื่อลดการสูญเสียของน้ำหล่อเย็น
- ลดอุณหภูมิของเครื่องยนต์
- ลดความดันของหม้อน้ำ
ดับเครื่องยนต์และจอดทิ้งค้างคืนไว้น้ำในถังพักน้ำสำรองจะเป็นอย่างไร
- ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ
- ถูกดันออกทางรูระบาย
- ถูกดูดกลับเข้าหม้อน้ำ
- ถูกดูดเข้าแล้วดันออกมากักเก็บที่เดิม
คราบสนิมในน้ำที่อยู่ในหม้อน้ำรถยนต์มีแหล่งกำเนิดมาจากส่วนใดเป็นสำคัญ
- เสื้อสูบ
- หม้อน้ำ
- ปั๊มน้ำ
- ท่อยางหม้อน้ำ
ข้อใด ไม่ใช่ หน้าที่ของน้ำมันเครื่อง
- หล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์
- ระบายความร้อนออกจากชิ้นส่วน
- ชะล้างสิ่งสกปรกและป้องกันสนิม
- ช่วยให้ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงสะอาด
ข้อใดคือส่วนประกอบของน้ำมันเครื่อง
- น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน + สารเพิ่มคุณภาพ
- สารต้านทานการกัดกร่อน + สารเพิ่มความหนืด
- สารป้องกันการสึกหรอ + สารเพิ่มคุณภาพ
- น้ำมันแร่ + น้ำมันดิบ
ข้อใด ไม่ใช่ วิธีการแบ่งประเภทของน้ำมันเครื่อง
- แบ่งตามชนิดของน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน
- แบ่งตามชนิดของความหนืด
- แบ่งตามชนิดของสารเพิ่มคุณภาพ
- แบ่งตามชั้นคุณภาพการใช้งานหรือแบ่งตามเกรด
น้ำมันเครื่อง API SJ/CH - 4 อยากทราบว่าตัว C มีความหมายตรงกับข้อใด
- ใช้กับเครื่องยนต์เบนซิน
- ใช้กับเครื่องยนต์ดีเซล
- ชั้นคุณภาพของน้ำมันเครื่อง
- น้ำมันเกรดเดียว
สาเหตุใดที่ ไม่ ทำให้น้ำมันเครื่องสกปรก
- เศษโลหะ
- ควันไอเสีย
- เขม่า
- ฝุ่นละออง
ข้อใดปฏิบัติ ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับน้ำมันเครื่อง
- เลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีราคาแพงเป็นอันดันแรก
- เลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพเหมาะสมกับเครื่องยนต์
- เลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีความหนืดเหมาะสมกับเครื่องยนต์
- เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเมื่อครบระยะเวลาที่กำหนด
ข้อใด ไม่ใช่ หน้าที่ของกรองน้ำมันเครื่อง
- กรองเศษโลหะ
- กรองความชื้น
- กรองเขม่า
- กรองฝุ่นละออง
ข้อใดคือวิธีการกรองน้ำมันเครื่องของกรองน้ำมันเครื่อง
- น้ำมันไหลซึมผ่านไส้กรองแล้วไหลออกทางเดิม
- น้ำมันไหลจากแกนกลางของกรองแล้วไหลออกทางเดิม
- น้ำมันไหลซึมผ่านไส้กรองจากด้านนอกเข้าสู่แกนกลาง
- น้ำมันไหลจากแกนกลางของกรองซึมผ่านไส้กรองออกสู่ด้านนอก
ข้อใด ไม่ใช่ สาเหตุสำคัญที่ต้องเปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่อง
- เพื่อให้น้ำมันเครื่องมีความสะอาด
- เพื่อลดการสึกหรอของชิ้นส่วนเครื่องยนต์
- เพื่อให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
- เพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์
ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุดเกี่ยวกับกรองน้ำมันเครื่อง
- เปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่องพร้อมกับกรองน้ำมันเชื้อเพลิง
- เปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่องพร้อมกับเปลี่ยนถ่ายน้ำ
- เปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่องพร้อมกับเปลี่ยนสายพาน
- เปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่องพร้อมกับเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
พลังงานใดมนุษย์นำมาใช้มากที่สุด
- พลังงานน้ำ
- พลังงานลม
- พลังงานเชื้อเพลิง
- พลังงานนิวเคลียร์
พลังงานข้อใดถือว่าเป็นพลังงานแปรรูป
- พลังงานน้ำ
- พลังงานปิโตรเลียม
- พลังงานแสงอาทิตย์
- พลังงานไฟฟ้า
พลังงานแหล่งที่มีความสำคัญมากที่สุดในปัจจุบันคือข้อใด
- พลังงานไฟฟ้า
- พลังงานแสงอาทิตย์
- พลังงานปิโตรเลียม
- พลังงานก๊าซธรรมชาติ
พลังงานที่มนุษย์ได้จากธรรมชาติโดยไม่ต้องซื้อคือข้อใด
- พลังงานปิโตรเลียม
- พลังงานแสงอาทิตย์
- พลังงานก๊าซธรรมชาติ
- พลังงานไฟฟ้า
พลังงานประเภทใดที่ประเทศไทยนำมาใช้ประโยชน์มากที่สุด
- พลังงานแสงอาทิตย์
- พลังงานก๊าซธรรมชาติ
- พลังงานไฟฟ้า
- พลังงานปิโตรเลียม
พลังงานต้นกำเนิดคือข้อใด
- พลังงานน้ำ
- พลังงานความร้อน
- พลังงานกล
- พลังงานไฟฟ้า
แหล่งทรัพยากรพลังงานนอกแบบคือข้อใด
- แหล่งพลังงานน้ำ
- แหล่งพลังงานน้ำมัน
- แหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพ
- แหล่งถ่านหิน
เชื้อเพลิงใดไม่ได้เป็นเชื้อเพลิงเหลว
- น้ำมันจากสัตว์
- น้ำมันจากการกลั่น
- น้ำมันจากพืช
- ทรายน้ำมัน
พลังงานประเภทใดเหมาะสมต่อการใช้เป็นพลังงานในชนบท
- พลังงานชีวมวล
- พลังงานจากขยะ
- พลังงานถ่านหิน
- พลังงานจากก๊าซชีวภาพ
ในอนาคตประเทศไทยจะต้องใช้พลังงานมากขึ้นเนื่องมาจากสาเหตุใด
- ค้นพบพลังงานแหล่งผลิตปิโตรเลียมมากขึ้น
- มีรถยนต์มากขึ้น
- การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้นรวมทั้งจำนวนประชากร
- ประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยนเป็นประเทศอุตสาหกรรม
ปิโตรเลียมหมายถึงข้อใด
- ก๊าซชีวภาพ
- สารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดหนึ่ง
- สิ่งสะสมใต้พื้นโลก
- ผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงจากการกลั่น
โดยมากน้ำมันที่ขุดเจาะค้นพบจะถูกกักเก็บโดยชั้นหินประเภทใด
- ชั้นหินทราย
- ชั้นหินน้ำมัน
- ชั้นหินดินดาน
- หินปูน
ข้อความต่อไปนี้ข้อใดถูกต้อง
- ก๊าซและน้ำมันจะผสมกันอยู่และน้ำจะอยู่ข้างล่าง
- ก๊าซจะลอยอยู่ข้างบน ส่วนน้ำมันจะผสมกับน้ำอยู่ข้างล่าง
- ก๊าซซึ่งเบากว่าจะลอยตัวอยู่ ส่วนน้ำมันจะอยู่ส่วนล่างของน้ำ
- ก๊าซซึ่งเบากว่าจะลอยตัวอยู่ ส่วนน้ำมันจะอยู่ส่วนบนของน้ำ
คุณภาพของปิโตรเลียมไม่ขึ้นอยู่กับข้อใด
- ชนิดของสารอินทรีย์
- สภาพสิ่งแวดล้อม
- ชั้นหินที่กักเก็บปิโตรเลียม
- เวลาการทับถมและสะสม
ข้อใดเป็นการสำรวจทางธรณีวิทยา
- วัดค่าสนามแม่เหล็ก
- ตรวจสอบภูมิประเทศ
- วัดคลื่นความสั่นสะเทือน
- วัดแรงดึงดูดของโลก
น้ำมันดิบฐานใดเมื่อนำมากลั่นแล้ว จะได้น้ำมันเบนซินที่มีค่าออกเทนเบอร์สูง
- ฐานพาราฟิน
- ฐานแอสฟัลต์
- ฐานผสม
- ฐานโอเลฟิน
น้ำมันดิบแบ่งเป็นกี่ฐาน
- 3 ฐาน
- 4 ฐาน
- 5 ฐาน
- 6 ฐาน
หลุมผลิตหมายถึงข้อใด
- หลุมที่นำปิโตรเลียมที่สะสมมาใช้ประโยชน์
- หลุมที่ค้นหาปิโตรเลียม
- หลุมศึกษาหาปริมาตรของปิโตรเลียม
- หลุมที่เจาะสำรวจหาปิโตรเลียม
การค้นหาหินต้นกำเนิดของน้ำมัน นักธรณีวิทยาดูจากข้อใด
- หินที่โผล่พ้นผิวดิน
- ชนิดและลักษณะของชั้นหิน
- ซากพืชและซากสัตว์
- ถูกทุกข้อ
ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติของปิโตรเลียม
- มีกลิ่นกำมะถัน
- มีสีดำหรือน้ำตาล
- เบากว่าน้ำ
- ความหนืดต่ำ
ถ่านหินชนิดใดมีคุณภาพดีที่สุด
- ถ่านพีต
- ถ่านลิกไนต์
- ถ่านบิทูมินัส
- ถ่านแอนทราไซต์
ถ่านหินที่มีความชื้นสูงให้ความร้อนต่ำคือข้อใด
- ถ่านพีต
- ถ่านลิกไนต์
- ถ่านบิทูมินัส
- ถ่านแอนทราไซต์
ถ่านหินชนิดใดที่นำไปผลิตถ่านโค้ก
- ถ่านพีต
- ถ่านลิกไนต์
- ถ่านบิทูมินัส
- ถ่านแอนทราไซต์
ถ่านโค้กสามารถนำไปใช้ประโยชน์คือข้อใด
- ผลิตภัณฑ์ถ่านหิน
- ใช้หุงต้ม
- ถลุงเหล็ก
- เผาปูนซีเมนต์
ประเทศไทยมีถ่านหินชนิดใดมากที่สุด
- ถ่านพีต
- ถ่านลิกไนต์
- ถ่านบิทูมินัส
- ถ่านแอนทราไซต์
ก๊าซถ่านหินได้มาจากกระบวนการใด
- การไฮโดรจีเนชั่น
- การแกซิฟาย
- การฟิชเชอร์โทรปช์
- การใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา
กระบวนการผลิตน้ำมันจากถ่านหินคือข้อใด
- การไฮโดรจีเนชั่น
- การแกซิฟาย
- การคาร์โบไนซ์
- ถูกทุกข้อ
ธาตุใดในถ่านหินที่เป็นสิ่งไม่ต้องการ
- คาร์บอน
- ไฮโดรเจน
- กำมะถัน
- ออกซิเจน
ข้อดีของเชื้อเพลิงอัดแท่งคือข้อใด
- ค่าความร้อนสูง
- เผาไหม้ได้นาน
- ใช้แทนฟืนได้
- มีควันน้อยมาก
แหล่งถ่านหินของประเทศไทยที่มีปริมาณมากที่สุดอยู่ที่ใด
- จังหวัดอุดรธานี
- จังหวัดกระบี่
- จังหวัดตาก
- จังหวัดลำปาง
ข้อใดไม่ใช่ก๊าซเชื้อเพลิง
- ก๊าซไฮโดรเจน
- ก๊าซออกซิเจน
- ก๊าซมีเทน
- ก๊าซชีวภาพ
ส่วนประกอบหลักของ NGV คือข้อใด
- ก๊าซอีเทน
- ก๊าซบิวเทน
- ก๊าซโพรเพน
- ก๊าซมีเทน
ก๊าซที่ได้จากการหมักมูลสัตว์หรือขยะคือใด
- Oil Gas
- Biogas
- Producer Gas
- Coal Gas
ประโยชน์ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์คือใด
- ใช้ในเครื่องเชื่อมแก๊ส
- ทำวัตถุระเบิด
- ทำน้ำแข็งแห้ง
- เป็นสารเติมระบบเครื่องปรับอากาศ
ผลิตภัณฑ์ใดไม่ได้จากหอกลั่นบรรยากาศ
- ก๊าซหุงต้ม
- น้ำมันเตา
- น้ำมันเครื่อง
- ยางมะตอย
ในการกลั่นน้ำมันดิบเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ ใช้หลักการข้อใด
- ย่อยสลายโมเลกุล
- จุดเดือดน้ำมันไม่เท่ากัน
- เรียงอะตอมใหม่
- ความหนืดไม่เท่ากัน
ก่อนที่น้ำมันดิบจะถูกพ่นเข้าไปในหอกลั่นบรรยากาศ ต้องเผาให้ร้อนกี่องศาเซลเซียส
- 315–371 องศา
- 600–700 องศา
- 800–1,000 องศา
- 1,000–1,500 องศา
ข้อใดเรียงลำดับผลิตภัณฑ์ที่กลั่นได้จากส่วนบนหอกลั่นมาส่วนล่างได้ถูกต้อง
- ก๊าซ เบนซิน ดีเซล น้ำมันก๊าด
- ก๊าซ เบนซิน น้ำมันก๊าด น้ำมันเตา
- ก๊าซ น้ำมันเครื่องบินไอพ่น เบนซิน น้ำมันเตา
- ก๊าซ ดีเซล น้ำมันเครื่องบินไอพ่น
ข้อใดคือกระบวนการย่อยสลายโมเลกุลเพื่อให้ได้น้ำมันเบามากขึ้น
- Reforming
- Isomerization
- Cracking
- Polymerization
น้ำมันดิบฐานใดที่กลั่นแล้วให้แก๊สโซลีนออกเทนสูง
- ฐานพาราฟิน
- ฐานแอสฟัลต์
- ฐานโอลีฟิน
- ฐานผสม
กำมะถันในน้ำมันเชื้อเพลิงมีผลเสียต่อเครื่องยนต์คือข้อใด
- ทำให้เกิดการน็อก
- เกิดยางเหนียว
- กัดกร่อนโลหะ
- ท่อน้ำมันอุดตัน
น้ำมันดิบฐานใดกากที่เหลือจากการกลั่นเป็นไข
- ฐานพาราฟิน
- ฐานแอสฟัลต์
- ฐานโอเลฟิน
- ฐานผสม
.ข้อใดหมายถึงสารหล่อลื่น
- วัสดุที่ใช้หล่อลื่นในรูปของแข็ง
- วัสดุที่ใช้หล่อลื่นในรูปของเหลว
- วัสดุที่ใช้หล่อลื่นในรูปกึ่งของแข็งกึ่งของเหลว
- วัสดุที่ใช้หล่อลื่นในรูปใดก็ได้
แกรไฟต์เป็นสารหล่อลื่นประเภทใด
- ของแข็ง
- กึ่งของแข็ง
- ของเหลว
- ก๊าซ
สารใดที่ใช้เติมในน้ำมันหล่อลื่นเพื่อเพิ่มคุณภาพด้านค่าดัชนีความข้นใส
- ฟีนอล
- โมลิบดีนัมไดซัลไฟด์
- ฟอสเฟต
- พอลิเมอร์
การเติมสารเพิ่มคุณภาพชนิดต่าง ๆ เพื่อข้อใด
- ปรับค่าความข้นใสตามอุณหภูมิการทำงานที่แตกต่างกัน
- ทำให้น้ำมันหล่อลื่นมีอายุการใช้งานนานขึ้น
- ทำให้น้ำมันหล่อลื่นมีคุณสมบัติพิเศษที่เหมาะกับการใช้งาน
- ทำให้น้ำมันหล่อลื่นมีความสามารถรับแรงกดได้มาก
มาตรฐานน้ำมันหล่อลื่นของสถาบันใดที่ใช้เกณฑ์ของค่าความข้นใสเป็นตัวกำหนด
- API
- SAE
- ASTM
- ISO
หน้าที่สำคัญของน้ำมันหล่อลื่นคือข้อใด
- ลดความฝืด
- ระบายความร้อน
- เป็นซีล
- ช่วยทำให้ชิ้นงานสะอาด
ความฝืดหลักที่เกิดจากกระปุกเกียร์เกิดจากอะไร
- ผิวของฟันเฟืองสัมผัสกัน
- ผิวของฟันเฟืองอัดกัน
- ตลับลูกปืน
- ความข้นของน้ำมันเกียร์
น้ำมันเกียร์ทั่วไปใช้เบอร์ใด
- 90 หรือ 100
- 100 หรือ 120
- 70 w หรือ 80 w
- 80 หรือ 90